เก่าจนลืมไปแล้วว่าเคยแปลไว้
เอามาแปะๆไว้หน่อย แปลนาน...
——
Team S 1st stage 「Party ga Hajimaruyo」
อ. - เลือกมาให้เล่นเพราะเป็นสเตจที่มีระดับความยากน้อยที่สุด ถึงตอนนี้HKTจะเริ่มด้วย Te wo tsunaginagaraและNMBเริ่มด้วยDareka no Tameniก็เถอะ
Q - คุณคิดนานไหมกว่าจะหาใครสืบทอดตำแหน่งคู่นั่นได้
อ - แน่นอน ประมาณว่า "ตำแหน่งของมาเอดะ อัตสึโกะก็ให้เป็นของมัตสึอิ จูรินะ"
หรือ "มิเอโกะหรือไม่ก็เดกุจิที่เสียงดีก็ให้เล่น Anata to Christmasไป" แต่สุดท้ายดันออกมาแตกต่างจากPartyของทีมAกับทีมKอย่างคนละขั้ว
Q - หลังจากเล่นรีไววัลสเตจแล้วคุณก็มอบสเตจที่ทุกวันนี้ถูกขนานนามว่า"สเตจเทพ(คามิโคเอ็น)"ให้ทีมS
Team S 2nd [Te wo Tsunaginagara] คุณมี"ความคาดหวัง"อะไรไหมตอนที่สร้างมันขึ้นมา?
อ - ตอนแรกพวกเค้าเป็น "หุ่นจำลอง1:1"ตอนนั้นAKB48เริ่มขายดีขึ้นมาแล้ว
เพราะวงเริ่มจะถึงขั้นมืออาชีพขึ้นมา เพราะแบบนั้นผมก็เลยให้ทีมSแสดงเพลงที่จะเข้าถึงกลุ่มคนดูได้
นี่ก็เป็นสาเหตุที่มีเพลงเกี่ยวกับโรงเรียนอยู่เยอะ
Q - เพลงหลักของสเตจนี้ก็เกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกันใช่ไหม? เนื้อเพลงประมาณ
"มากุมมือกับเหล่าเพื่อนพ้องที่เพิ่งได้พบกันที่โรงเรียนและก้าวไปข้างหน้าด้วยกันเถอะ"
อ - ในทีมที่มีทั้งเด็กที่เรียนรู้ได้เร็วและบางคนเรียนรู้ได้ช้า แต่พวกเค้าต้องก้าวหน้าไปพร้อมๆกัน
ถึงแม้จะมีบางคนที่เหมือนจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
"เราจะไม่ปล่อยให้ใครหลุดออกนอกทางไป อยากจะให้พวกเราเดินหน้าไปด้วยกัน"
นี่เป็นความหวังที่ผมอยากจะแฝงลงไปในเพลงสเตจนี้
ยังไงก็ตาม ทีมทีมหนึ่งคือกลุ่มคนที่ถูกโชคชะตานำพามาพบกัน ผมคิดว่าความรักในทีมของทีมSนั้น
"Te wo Tsunaginagara"(เพราะมือนั้นเกาะกุมกันไว้ : ชื่อเพลงหลักของเสตจ) คือวลีที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่จะถ่ายทอดความรู้สึกดังกล่าวออกมาเป็นรูปร่าง" ผมสร้างสเตจทั้งสเตจขึ้นมาโดยมีพื้นฐานมาจากความรู้สึกนี้
Q - เพลงยูนิตทุกเพลงก็เป็น"เพลงเทพ"เหมือนกัน
อ - มัตสึอิ จูรินะเริ่มเปล่งประกายในฐานะเอสแล้ว ผมต้องการเพลงที่จะแสดงความสามารถในฐานะนักเต้นของเธอออกมา
เพราะแบบนั้นผมถึงเลือก "Glory Days" สำหรับยางามิ(คุมิ) ทาคาอิ(สึกินะ) โมริ(ซายูกิ)ที่มีความเป็นไอดอลสูง ผมเลยเลือกเพลงที่ดูเป็นสไตล์ไอดอลทั่วไปอย่าง "Wimbledon he Tsureteitte"
ต่อจากนั้นผมก็แต่ง"Ame no Pianist"ขึ้นมาเพราะผมอยากสัมผัสถึง"ความพิเศษ"ในตัวมัตสึอิ เรนะ
ผมอยากจะดึงความสามารถในฐานะนักแสดงของเธอออกมา
(TL note : อากิพีมอบบทเกกิคาระให้เรนะเพราะถูกใจเรนะในเพลงเปียนิสต์ด้วย)
(..ข้าม..) ผมปรับเปลี่ยนท่อนดนตรีคั่นเพื่อที่เธอจะได้แสดงความสุดยอดของเธอออกมาให้เห็น
แปลสรุปๆ
- อากิพีรู้ว่า Innocence จะต้องดังแน่ๆ แต่คาดไม่ถึงว่า Romance Rocket จะได้รับความนิยมด้วย
- เพลงสุดท้าย Tooku ni Ite mo ต้องการสื่อว่าถึงแม้เมมเบอร์บางคนจะขาดหายไป อาจจะเป็นเพราะเค้าต้องไปโตเกียวหรือไปที่อื่น หัวใจของเมมเบอร์ทุกคนจะยังเป็นหนึ่งเดียว
Team S 3rd stage [Seifuku no me] คือคำเดียวว่า "ศักยภาพ"
"สเตจนี้ดึงศักยภาพทั้งหมดที่แฝงอยู่ในชุดยูนิฟอร์มนั่นออกมา ศักยภาพของSในฐานะทีม"
- "ยกตัวอย่างเช่นเพลงยูนิตของมัตสึอิ จูรินะ "Omoide Ijou/มากยิ่งกว่าความทรงจำ"
ถ้าจะมีใครที่มีศักยภาพพอที่จะไปถึงจุดนั้น จุดที่เหนือล้ำกว่าความทรงจำ ก็คงต้องเป็นเด็กสาวคนนี้แหละ
- [Okami to Pride] เพลงนี้ให้คุมิเพราะตอน Wimbledon เธอน่ารักมาก
- อากิพีคิดว่า Romance Rocket กับ Onnanoka no Dairokukan เป็นเพลงธรรมดาๆตอนเขียนมันขึ้นมา
- [Pinocchio Gun] เป็นเพลงที่มีแต่SKE48เท่านั้นที่จะแสดงได้ "ทั้งดูติ๊งต๊องและบ้าคลั่ง"น่ะ
Team KII Setlist. 1st stage 「Aitakatta」.
อ - สำหรับผม สเตจคือที่ที่จะฉายสปอทไลท์สาดส่องไปยังเด็กๆ สำหรับAKB48ผมเขียน Nagisa no CHERRYขึ้นมาเพื่อดึงมาเอดะ อัตสึโกะออกมาในฐานะ"สตาร์"
ต่อมาผมก็คิดว่า "ใครจะได้ตำแหน่งของมาเอดะดีล่ะ?"อะไรประมาณนี้ ผมตัดสินใจด้วยการปรึกษากับสตาฟครับ
Q - คุณดำเนินการแบบ "ถ้าให้ตำแหน่งนั้นกับเด็กคนนี้แล้วเด็กคนนี้จะเติบโตไปในแนวทางนั้น"โดยมีเป้าหมายชัดเจนในใจไหม?
อ - ไม่ล่ะ ไม่ใช่แบบนั้น ยกตัวอย่างนะ จินตนาการดูว่าคุณมีเมล็ดข้าวโพดอยู่มากมาย
และนำมันลงไปคั่วบนกระทะที่เรียกว่า"สเตจ" สิ่งที่ผมทำก็แค่เฝ้ามองว่า "โอ้ เมล็ดนั้นแตกออกมาแล้วเหรอ?" "ตรงนู้นก็แตกแล้วเหมือนกัน"
ตอนแรกผมไม่มีเป้าหมายอะไรชัดเจนหรอกเพราะแบบนั้นถ้าเกิดผมทำผิดพลาดขึ้นมา ผมก็จะเฝ้ามองผลลัพธ์ว่า"สิ่งใด"กันที่จะปรากฏออกมาให้เห็นในภายหลัง
Team KII 2nd stage 「Te wo Tsunaginagara」(คนสัมภาษณ์เรียกสเตจนี้ว่า "จิตวิญญาณของSKE")
สรุป
- "มันยากนะที่จะให้ทีมต่างทีมในวงเดียวกันแสดงเสตจเดียวกัน มันเป็นมาตั้งแต่ที่การแข่งขันระหว่างทีมAและทีมKเข้มข้นขึ้นแล้ว
คำถามว่า"ใครจะได้ตำแหน่งมาเอดะ" "ตำแหน่งโคจิมะนี่ใคร"จะถูกหลีกเลี่ยงไปไม่ได้เลย"
- "แน่นอนว่ามุไคดะ(มานัทสึ) ที่ได้ตำแหน่งเดียวกันกับมัตสึอิ จูรินะก็ถูกเปรียบเทียบกับจูรินะมามากเหมือนกัน"
- อิมเมจของมุไคดะแตกต่างจากจูรินะ การที่เธอเติบโตขึ้นโดยที่ถูกเปรียบเทียบกับจูรินะตลอดเวลาต้องลำบากมามากแน่ๆ
- อากิพีนึกขึ้นมาได้ว่าให้เล่นสเตจนี้นานเกินไปแล้วและจำได้ว่าอาคาเนะขอร้องเขาโดยตรงระหว่างการเลือกตั้งปี2011ว่าต้องการออริจินัลสเตจ
Team KII 3rd stage 「Ramune no Nomikata」
สรุป
- ส่วนที่ยากที่สุดในการแต่งเพลงสเตจคือการเลือกเพลงมาให้เหลือแค่16เพลง
- "ผมต้องเลือกออกมาจากเพลงนับพันเพลงที่เอาไว้ใช้สำหรับซิงเกิลและคิดว่าเพลงไหนที่เหมาะสำหรับสเตจ สุดท้ายก็เลือกออกมาได้ประมาณร้อยเพลง หลังจากนั้นก็คิดลำดับและจัดสรรเพลง เมื่อทำเสร็จทั้งหมดแล้ว ผมจึงเริ่มเขียนเนื้อร้อง"
- "บางทีผมก็เปลี่ยนลำดับเพลงไปขึ้นอยู่กับเนื้อเพลงที่ผมแต่งขึ้นมา
แน่นอนว่าระหว่างแต่งก็นึกถึงตัวเมมเบอร์ไปด้วย แต่ที่สำคัญที่สุดคือการทำให้ทั้งสเตจออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
การที่จะทำแบบนั้นได้ก่อนที่จะใส่เนื้อร้องลงไปอาจจะเป็นส่วนที่ยากที่สุดเลย"
- ตัวอย่าง ตอนแรก Wimbledon จะอยู่เป็นเพลงที่3และเกือบจะใส่Disco Hokenshitsuลงไปด้วย
- "ผมเลือกฮาตะ(ซาวาโกะ)เล่นเพลง Kodoku na Ballerina หลังจากเห็นการเต้นของเธอในเดโม่เทป
- Akushu no Ai มาในแนวเดียวกับ Theater no Megami กับ Shonichi ของทีมB
: ในความเป็นจริงนั้นออกจะนามธรรมแต่ก็เป็น"คอนเซปท์"ที่สำคัญ ข้อความจากอากิพีอยากสื่อถึงอาคาเนะและเมมเบอร์KIIทุกคนที่อากิพีคิดว่า"เคร่งเครียดเกินไปหรือเปล่า"คือ
[อย่าเคร่งเครียดให้มากนักเลยนะ ถ้าไม่มองไปข้างหน้ายาวๆจะทำให้ตัวเองเหนื่อยมากไปซะเปล่านะ]
Team E 1st 「Pajama Drive」 (เพิ่งเล่นสเตจสุดท้ายไปเมื่อเดือนนึงก่อนจะออกสัมภาษณ์).
อ - พูดจริงๆคือทีมEยังไม่ค่อยถึงขั้นเท่าไหร่ แต่ก็เป็นคอนเซปท์ของAKB48เหมือนกันที่จะแสดงให้เห็นพัฒนาการไปเรื่อยๆ
Q - แต่Pajama Driveนี่เป็นสเตจที่ยากมากเลยไม่ใช่เหรอ?
อ - แต่ก็เป็นสเตจที่เหมาะกับไอดอลเหมือนกัน เพราะแบบนั้นถึงน่าสนใจใช่ไหมล่ะ?
มีทั้งเพลงน่ารักๆอย่าง Gokigen Naname na Mermaid หรือ Hissatsu Teleport และเพลงเครียดอย่าง Inochi no Tsukaimichi ผมรอดูว่าทีมEจะจัดการความแตกต่างนี้ยังไง
อนาคตของSKE48
Q - ตอนนี้Team E1st stageก็เพิ่งจบลงไป พวกเราอยากเห็นสเตจใหม่ของทีมSเหมือนกัน
เพราะแบบนั้นก็เลยอยากจะพูดคุยเรื่องอนาคตของSKE48กับคุณถ้าเป็นไปได้..
อ - สำหรับออริจินัลสเตจ ตอนนี้ผมเขียนสเตจทีมNให้NMB48อยู่
ต่อไปก็น่าจะเป็น...ทีมSมั้งนะ ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่
Q - พวกเราจะรอนะ(หัวเราะ) มากไปกว่านั้นระหว่างคอนเสิร์ทSSAในเดือนมีนาคม
ได้มีการประกาศให้มัตสึอิ จูรินะและวาตานาเบะ มิยูกิ ควบทีมชั่วคราวกับทีมKและทีมB
ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่หลากหลายมากจากแฟนๆ อย่างเช่นบางคนก็บอกว่า "พวกเค้ามาจากคนละวงกันนะ แล้วทำไมถึงมีการยืมตัว?"เป็นต้น
อ - แต่ยังไงทุกคนก็อยู่ในกรุ๊ปกรุ๊ปใหญ่กรุ๊ปเดียวอยู่ดีนะ SKE48 NMB48 HKT48ก็เช่นกัน
ถ้าวงเหล่านี้มีอายุ6-7ปี ผมเชื่อว่าพวกเค้าก็จะมีความนิยมอยู่ในระดับเดียวกันกับAKB48
แต่กระบวนการนั้นมันต้องใช้เวลา นั่นแหละทำให้ผมเลือกเมมเบอร์จางวงน้องมา แฟนๆจะได้รู้สึกประมาณว่า"เด็กคนนั้นน่ารักจัง วาตานาเบะ มิยูกิสินะ?" ไม่ก็ "นั่น มัตสึอิ จูรินะ!?"
และจากจุดนั้นเค้าก็จะเริ่มสนใจในNMB48และSKE48
Q - เหมือนตอนOogoe Diamondที่คุณให้มัตสึอิ จูรินะเป็นดับเบิ้ลเซนเตอร์คู่กับมาเอดะ อัตสึโกะ
นั่นทำให้สาธารณชนเริ่มคุ้นชื่อSKE48ขึ้นมาเลยใช่ไหม?
อ - ตอนนั้นแฟนๆAKB48ตอบรับแบบว่า "เอ๋!?" แต่ผมคิดว่านั่นเป็นจุดกระตุ้นทั้งกรุ๊ปโดยรวมเลยล่ะ
อย่างจูรินะกับวาตานาเบะที่ควบสองตำแหน่งในเวลาเดียวกัน ก็เป็นการเตรียมการที่สำคัญต่อจูรินะและมิลกี้ในอนาคต
เพราะทุกคนย่อมมีโอกาส และก็ยังเป็นตัวกระตุ้นให้ทีมSและทีมNได้เช่นกัน
Q - หลังจากการประกาศที่SSA คุณโพสท์ข้อความชวนตะลึงลงGoogle+ว่า "ถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ผิดพลาด ผมจะลาออกจากการเป็นโปรดิวเซอร์ของSKE48และNMB48"
อ - ...แต่ผมคิดอยู่นะว่า "ถ้าเลิกเป็นโปรดิวเซอร์ให้พวกเค้า ก็จะทำให้วงน้องมีอิสระในการบริหารของตัวเองซะที ไม่ใช่เหรอ?"
Q - เอ๋!? จริงเหรอ!? อย่าทิ้งพวกเค้าไปเลยนะ!
อ - ไม่ๆ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมจะบอก ผมรวมเอาเมมเบอร์วงน้องไว้ในเซนบัตสึของAKB48 ผมให้วงน้องมาร่วมเล่นMajisuka Gakuen
แต่มันจะดีกว่าไม่ใช่เหรอถ้าพวกเค้ามีเอกภาพในตัวเอง อย่างถ้าเกิดมีโปรดิวเซอร์คนอื่นที่จะมาโปรดิวซ์SKE48และNMB48
ผมว่าแบบนั้นก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะ
Q - ไม่มีใครรู้ว่าอากิโมโตะเซนเซย์เอาจริงแค่ไหน....แต่ที่แน่นอนคือทั้งSKE48 NMB48 และ AKB48 กำลังก้าวไปสู่ยุคใหม่ บทที่2แห่งประวัติศาสตร์ แล้วSKE48จะเป็นอย่างไรต่อไปในAKB48กรุ๊ปกันนะ
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ขอตั้งหน้าตั้งตารอคอยอยู่แน่นอน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น