วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

[Talk] ยูนานะจบการศึกษา



สำหรับแฟนๆแล้ว การจบการศึกษาของไอดอลเป็นเรื่องที่ทั้งสุขและเศร้าไปพร้อมๆกัน
สุขที่ได้เห็นเขาก้าวไปอีกก้าว ไปในเส้นทางที่เขาตัดสินใจเลือกเอง
เศร้าที่เราจะไม่ได้เห็นเขาในฐานะเมมเบอร์วงไอดอลที่เรารักอีกต่อไปแล้ว
เป็นอารมณ์ที่ถ้าไม่ได้มาตามไอดอลก็คงไม่มีวันได้รู้

ที่ผ่านมา SKE มีเด็กที่เป็นดาวรุ่งมากมายหลายคน จบการศึกษาออกไปในขณะที่อนาคตในวงกำลังสดใสแบบสุดๆ
แต่สำหรับเรา คงไม่มีครั้งไหนอิมแพ็คเท่ากับครั้งนี้ ถือเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของ SKE เลยก็ว่าได้
เมื่อเด็กที่ถูกวางตัวให้เป็นเอซคนต่อไปของวง เด็กเพียงคนเดียวที่ได้เป็นเซนเตอร์เดี่ยวต่อจากระดับตำนานอย่างจูรินะกับเรนะ เด็กที่ทุกคนมองว่าเป็นอนาคตอันสดใสของ SKE อยู่ดีๆก็ประกาศจบการศึกษาโดยไม่มีวี่แววมาก่อน
ทุกคนก็คงตกใจแล้วก็มีคำถามผุดขึ้นมาเต็มในหัวไปหมดเหมือนๆกัน

มันเกิดอะไรขึ้น? เพราะอะไร?
ทำไมยูนานะถึงทำแบบนี้?
ไหนเคยบอกว่าจะเป็นคนที่พาวงนี้ไปไง?
ไหนที่เคยบอกว่าจะเป็นคนที่เปลี่ยนแปลงอิมเมจของวง?
ไหนที่เคยบอกว่าอยากจะไปนาโกย่าโดมด้วยกัน?
ไหนที่เคยบอกว่าจะไปงานขาว-แดงด้วยกัน?
ไหนที่เคยบอกว่าจะเป็นเซนเตอร์คู่กับราระ?
มันหายไปไหนหมดแล้ว?

เราพยายามจัดการกับความรู้สึกตัวเองอยู่นาน (นานกว่าตอนเรนะโอชิคนแรกของเราแกรดซะอีก)
กว่าจะกล้าเข้าไปอ่านบล็อกของยูนานะที่พูดถึงเรื่องนี้แบบเต็มๆ



อ่านไป แปลไป น้ำตาก็ไหลออกมาเอง

แฟนๆอย่างพวกเรานี่มัน ช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

ตั้งแต่ได้อ่านบล็อกยูนานะ คำถามในหัวเรามันเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ "เพราะอะไรยูนานะถึงจบการศึกษา?"
แต่มันกลายเป็นคำถามที่เราย้อนถามตัวเองกลับว่า "ที่ผ่านมามองข้ามตัวตนจริงๆของยูนานะมานานแค่ไหน?"

ยูนานะไม่ใช่เด็กที่จะบ่นหรือแสดงอารมณ์อะไรลบๆออกมา
เป็นเด็กจิตใจดีที่ใครอยากให้ทำอะไรก็ทำ แถมยังตั้งใจทำออกมาได้ดีด้วย
ในอีกทางนึง เรามองว่าคงเป็นเพราะยูนานะโตขึ้นแล้ว
มีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วก็อยากสลัดภาพบางอย่างทิ้งไป ซึ่งก็อาจเป็นภาพที่พวกเราเองนี่แหละยัดเยียดให้

พวกเราเอาแต่มองว่ายูนานะน่ารัก แต่ไม่เคยสนใจเลยว่าแท้จริงยูนานะอยากเป็นแบบไหน
ช่วงหลังที่น้องตัดผมสั้น เปลี่ยนแนวเป็นชาวร็อค หลายคนกลับคอมเม้นต์ว่าชอบยูนานะที่น่ารักใสๆมากกว่า
พวกเรายัดเยียดความคิดของพวกเราให้น้อง โดยที่ไม่ค่อยสนใจความคิดของตัวน้องเองซักเท่าไหร่

พวกเรามัวแต่คิดว่ายูนานะคือความหวัง คือความฝัน คืออนาคตของวง
พวกเราคาดหวังสูงมากถึงมากที่สุดในตัวเด็กผู้หญิงคนนี้
แต่พวกเราไม่เคยสนใจเลยว่า จริงๆแล้วยูนานะรู้สึกยังไงกับทุกความคาดหวังที่ได้รับมา
พวกเราไม่เคยสนใจเลยว่า ตัวยูนานะต้องแบกรับความกดดันมากแค่ไหน
ไม่ใช่ในฐานะไอดอล แต่ในฐานะเด็กคนหนึ่งที่เข้ามาในวงการนี้โดยที่ไม่เคยชอบหรือรู้จักไอดอลมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ถึงในบล็อกยูนานะจะไม่ได้เขียนออกมาตรงๆ แต่ก็รับรู้ได้ว่ามันคงยากมากสำหรับยูนานะ

เมื่อเราคาดหวังกับอะไรบางอย่างไว้ แล้วผลที่ออกมามันไม่เป็นอย่างที่หวัง ก็ย่อมต้องผิดหวังมากเป็นธรรมดา
แต่ในกรณีนี้เราไม่ได้ผิดหวังกับยูนานะ เราผิดหวังกับตัวเราเองมากกว่าที่ไปตั้งความคาดหวังไว้แบบนั้นโดยไม่ได้ใส่ใจตัวน้องเลย

นึกไม่ถึงจริงๆว่าการชอบไอดอลจะให้ข้อคิดชีวิตอะไรแบบนี้ได้ด้วย

ตอนนี้เรารู้แล้วว่า อะไรก็ได้ ขอแค่ให้ยูนานะมีความสุข
ขอแค่ให้ยูนานะยิ้มได้ออกมาจากใจ
แค่นี้เราก็พอใจแล้ว

ระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา การมียูนานะอยู่ใน SKE สำหรับเราถือเป็นลาภอันประเสริฐแค่ไหนแล้ว (ฮาาาาา)

ก็อย่างที่ยูนานะบอกแหละค่ะว่าในฐานะไอดอลก็ได้ทำสำเร็จลุล่วง จบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
เด็กที่ใช้เวลาอยู่ในวงแค่นี้ แต่ถึงขั้นได้ยืนเป็นเซนเตอร์ซิงเกิ้ลหลัก เป็นคนจุดประกายให้วงนี้มันร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง
เป็นเด็กมหัศจรรย์จริงๆนั่นแหละ

เราชอบประโยคนึงที่พี่นกเขียนไว้ในบล็อก (พี่นกซึ่งปกติไม่ได้สนิทกับยูนานะขนาดนั้น)
ที่บอกว่า
"(เธอ)จะไม่เป็นจุดเปลี่ยนที่สร้างอะไรบางอย่างให้กับ SKE48 อีกแล้วงั้นเหรอ...แต่บางทีเธออาจเป็นไปแล้วก็ได้"

มันใช่เลย ยูนานะเป็นคนที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ SKE ไปเรียบร้อยแล้ว

หลังจากนี้ก็อยากให้ยูนานะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักอย่างมีความสุข อัพโซเชี่ยลบ้าง พอให้ได้เห็นหน้ากัน ให้ได้รู้ว่ายูนานะมีความสุขดี
แค่นี้ก็พอแล้ว

ส่วน SKE ไม่ต้องห่วง
เรายังมีเด็กรุ่นใหม่ที่ร้อนแรงและพร้อมจะขึ้นมายืนเป็นแนวหน้าอยู่อีกเพียบ ขอแค่โอกาสที่เด็กๆจะได้แสดงออก
ถ้าจะให้พูด ก็ต้องบอกว่าสถานการณ์ช่วงนี้ดีกว่าช่วงปี 2016 แบบหน้ามือเป็นหลังมือ
มีรายการเยอะมาก หลากหลายช่องทาง ทั้งฟรีทีวี ทั้งวิทยุ ทั้งสตรีมมิ่งออนไลน์
ก็หวังว่าเด็กๆจะคว้าไว้ได้เมื่อโอกาสมาถึง

จบค่ะ

ปล. เราจะเป็นหนักกับยูนานะมากหน่อย เพราะเห็นน้องมาตั้งแต่เดบิวต์เปิดตัวในงานจับมือ จนขึ้นอันเดอร์ในสเตจทีม S ครั้งแรก จนได้มาถึงตอนนี้ เหมือนเห็นลูกโต
ปล2. ไม่ว่ายูนานะจะอยู่ไหน ยูนานะก็จะเป็นลูกเราเสมอค่ะ
ปล3. ยูราระของพี่.......................................
ปล4. เดี๋ยวจะเอาที่แปลบล็อกเมมเบอร์คนอื่นที่เขียนถึงยูนานะมาลงให้อ่านอีกที

[แปล] Ameblog ยูนานะ 2019-02-13 "ความรู้สึกของฉัน"

บล็อกยูนานะ
https://ameblo.jp/ske48official/entry-12439811663.html


ความรู้สึกของฉัน โอบาตะ ยูนะ


ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์และไลค์ ใน Ameblog ครั้งก่อนนะคะ

ก่อนอื่นเลย
ฉัน
โอบาตะ ยูนะจะจบการศึกษาจาก SKE48 สิ้นเดือน 3 นี้ค่ะ!!

ขอโทษด้วยที่บล็อกที่ฉันไม่ได้เขียนมานานต้องเป็นแบบนี้

คิดว่าการประกาศที่กะทันหันนี้คงทำให้หลายๆคนตกใจ
หลายๆคนคงสงสัยว่า ทำไมกันนะ? 

ถ้าให้พูดก็คงจะยาว ฉันอยากจะบอกความรู้สึกที่ฉันต้องการจะบอกเท่านั้นค่ะ

เพราะฉันพูดไม่ค่อยเก่ง ถ้าทำให้สับสนก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ

ก่อนอื่น
ฉันคิดเรื่องจบการศึกษาตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ

ปีที่แล้วเป็น 1 ปีที่สนุกและไม่มีเรื่องที่น่าเจ็บใจเลย

ได้รับเลือกเป็นเซนเตอร์ใน Muishiki no iro
ในเลือกตั้ง ก็ได้ติดอันดับที่ 34 ซึ่งเป็นอันดับที่งดงาม...

ตั้งแต่หน้าร้อนจนถึงช่วงใบไม้ร่วงก็ได้เข้าร่วมอีเว้นท์ต่างๆมากมาย

ถึงขั้นว่า ถ้าให้พูดก็คงไม่หมด! เลยล่ะค่ะ
มีเรื่องที่น่ายินดีเต็มไปหมด

ในระหว่างนั้นก็มีความคาดหวังต่อฉัน...
เรื่องนี้น่ะ

เป็นเรื่องที่ฉันดีใจมากเลยค่ะ

มีคนบอกบ่อยๆว่า งานจับมือก็รออยู่นะ

แต่ว่า
ในระหว่างนั้น

พอมีคนถามว่า เป้าหมายใหม่ที่อยากทำต่อไปคืออะไรเหรอ?

ตัวฉันที่ไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้

ตัวฉันที่คิดว่าได้ทำหน้าที่ในฐานะไอดอลอย่างสมบูรณ์แล้ว

ไอดอลที่จริงแล้วเป็นยังไงกันนะ? ตัวฉันเองรู้ดีที่สุดค่ะ

ฉันเข้าใจดีว่า
เราควรตั้งเป้าให้สูงขึ้น
เราจะยังพอใจที่ตรงนี้ไม่ได้

เพราะงั้น

ฉันคิดว่าการจะเป็นไอดอลด้วยความรู้สึกครึ่งๆกลางๆมันไม่ถูกต้องค่ะ

รอบตัวฉันก็มีเมมเบอร์ที่อยากทำอะไรต่างๆมากขึ้น อยากเป็นแบบนั้นแบบนี้มากขึ้น

ในระหว่างนั้น ตัวฉัน
เริ่มรู้สึกว่าการยืนอยู่ข้างหน้ามันไม่ถูกต้อง

เดิมที ตัวฉันไม่ได้รู้จักไอดอล หรือ SKE มากเท่าไหร่ เพราะคุณยายให้มาลองออดิทชั่นเลยได้เข้ามา

เริ่มทำงานด้วยความกังวล โดยที่แทบจะไม่รู้อะไรเลย

ความรู้สึกแบบว่า จะทำยังไงดีนะ? มันเต็มไปหมด

แม้จะเป็นแบบนั้นรอบตัวฉันก็มีเมมเบอร์และแฟนๆที่ร้อนแรงอยู่

วงนี้เป็นยังไงนะ?
ทำไมถึงได้ร้อนแรงกันขนาดนี้?

แต่ว่า
ในการทำงานก็เริ่มรู้สึกว่าวงนี้เป็นวงที่ดีมาก

ฉันเองก็อยากเป็นแบบนั้นบ้าง
และเริ่มมีเป้าหมาย...

เริ่มแรกสุดฉันแทบจะพูดไม่ได้เลย
มันคงทำให้แฟนๆรำคาญ

แต่ในขณะที่ทำงาน ฉันก็มีเป้าหมายที่ต้องทำให้ได้อยู่ในใจตลอดมา

แล้วก็ ที่มักจะโดนถามบ่อยๆ คำตอบของฉันก็มีแค่

ตำแหน่ง!

อยากเป็นเซนเตอร์งั้นเหรอ?
แม้จะเป็นเรื่องที่ถูกถามบ่อยๆ 
แต่ตัวฉัน จริงๆไม่ได้ยึดติดกับเรื่องตำแหน่งเท่าไหร่หรอกค่ะ

แน่นอน ถ้าถามว่า อยากเป็นเซนเตอร์เหรอ? ก็ต้องอยากเป็นอยู่แล้วล่ะค่ะ

มันเป็นตำแหน่งที่ไม่ว่าใครก็อยากเป็น
ถ้าเป็นไอดอล ก็ต้องมีตำแหน่งเป็นเป้าหมายนั่นแหละ

ก่อนจะได้เป็นเซนเตอร์

ฉันซึ่งไม่ได้ยึดติดกับเรื่องตำแหน่ง
ก็เลยตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นเซมบัตสึก่อน ด้วยเป้าหมายนั้น
ฉันก็ทำเรื่องที่อยู่ตรงหน้าไปด้วยความรู้สึกที่เป็นตัวของตัวเอง

และเมื่อวันเวลาผ่านไปฉันก็ได้ติดเซมบัตสึ Igai ni mango และได้เป็นเซนเตอร์

ไม่รู้ตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ฉันคิดว่า ฉันจะไหวมั้ยนะ?

แต่ถึงอย่างนั้น
เพราะถูกเลือกแล้ว

ฉันก็คิดว่า การที่มีเซนเตอร์แบบฉันแล้ว SKE จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็คงดีนะ

ก็เลยออกตัววิ่ง

ตัวฉันที่เดิมทีไม่มีความมั่นใจใดๆ คำพูดของทุกคนช่วยฉันไว้ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่...

ต้องขอบคุณแฟนๆทุกคนจริงๆค่ะ

นั่นสิน้า
ถึงจะเขียนอะไรสะเปะสะปะไปบ้าง
แต่ก็ได้พูดอะไรที่อยากพูดล่ะ

เป้าหมายในฐานะไอดอลก็คือ
การได้ทำสิ่งต่างๆให้เป็นจริงพร้อมกับแฟนๆ
เมื่อได้รับความคาดหวังที่มากขึ้น

ฉันวิ่งมาถึงตรงนี้ด้วยความคิดว่าจะต้องพยายามไปให้ถึงเป้าหมายที่สูงขึ้นให้ได้

แต่ว่า
ตัวฉันที่คิดว่าได้ทำมาครบถ้วนสมบูรณ์แล้วนั้น
ความรู้สึกที่อยากจะท้าทายอะไรใหม่ๆมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น
ฉันเลยเลือกที่จะจบการศึกษา

ไม่ว่ายังไง
การทำอะไรครึ่งๆกลางๆมันไม่ใช่เรื่องดีเลยจริงๆ
มันเสียมารยาทกับคนที่เค้าเอาจริงเอาจัง

แน่นอนว่า
ในฐานะไอดอล
สเตจ งานจับมือ ไม่ว่าจะทำอะไร
ฉันไม่มีทางทำด้วยความรู้สึกครึ่งๆกลางๆแน่ค่ะ ไม่มีทาง

ฉันอยากทำให้มันสมบูรณ์จนถึงท้ายที่สุด
เพราะยังอยากตอบแทนความรู้สึกขอบคุณนี้อยู่

ทั้งการแสดง ทั้งรอยยิ้ม ทั้งความร่าเริง
ถ้าเป็นเรื่องที่ฉันสามารถทำได้
ฉันก็อยากจะตอบแทนในแบบของฉันค่ะ

สัญญาเลย

ถึงจะยาวไปหน่อย
แต่นี่เป็นความรู้สึกของฉันในตอนนี้ค่ะ

อย่างในงานจับมือ

ตอนที่ถูกถามถึงเป้าหมายว่า อยากทำอะไรต่อไปเหรอ?
แล้วไม่อาจตอบได้ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ตอนนั้นมันเจ็บปวดมากเลยค่ะ

การไม่สามารถพูดออกมาได้ ฉันเกลียดจริงๆ

ฉันหนักใจมากที่ทำให้หลายคนสับสน

แต่เพราะมีแฟนๆที่ร้อนแรงทุกคน
ถึงมีฉันในตอนนี้

เพราะได้รับความกล้ามา
ถึงได้สังเกตเห็นความรู้สึก
ที่มันบอกว่ามุ่งไปในเส้นทางใหม่กันเถอะ
ที่มันบอกว่าอยากทำนั่นนี่

ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ เพื่อจะตอบแทนให้สมกับที่ได้รับมา
โอบาตะ ยูนะ ในฐานะไอดอลที่เปล่งประกาย
จะสนุกให้เต็มที่เลยค่ะ!

มาสร้างความทรงจำด้วยกันเยอะๆเถอะค่ะ!

จนกว่าจะถึงท้ายที่สุดก็ฝากด้วยนะคะ!!

รักนะ




(yu ❛ ڡ ❛ )na

blogged by 91

[91][bsummary]

Translation

[Translation][bsummary]

Subtitle

[subtitle][bsummary]

Update

[SKEUpdate][bsummary]