วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

(91)[100%SKE48] แปลบทสัมภาษณ์นาโอะจัง (ฟุรุฮาตะ นาโอะ)

ฟุรุฮาตะ นาโอะในคอนเสิร์ตจบการศึกษาของมิยาซาว่า ซาเอะนั้นดูน่าตื่นตาตื่นใจมาก
โบยบินออกจากรัง SKE48 ที่สำคัญยิ่ง รับประสบการณ์จากโลกภายนอก
ด้วยความเจ็บใจกับการที่ไม่ได้ไป “โคฮาคุ” ในปลายปีที่แล้ว
และที่มัตสึอิ จูรินะพูดออกมาว่าเป็น “วิกฤติ”
เมื่อผูกเรื่องพวกนี้เข้าด้วยกัน เธอได้ตัดสินใจแล้ว

ความรักใน SKE48 ที่ทวีมากขึ้น “บันทึกประสบการณ์การเรียนต่างแดน” ของฉัน
“รอยยิ้มของทุกคน ฉันจะเป็นคนปกป้องเอง!”


การตื่นรู้ในความเป็นมืออาชีพ

- วันนี้ คิดว่าจะจัด “งานยกย่องฟุรุฮาตะ นาโอะ” สักหน่อยเลยรีบมาจากโตเกียวเลยครับ

นาโอะ: แปะๆๆๆๆ งั้นฉันแค่นั่งฟังก็พอแล้วมั้งคะ

- แบบนั้นก็ไม่ใช่สัมภาษณ์สิครับ ยังไงก็ขอถามคำถามหน่อยละกัน (หัวเราะ) ก่อนอื่นอยากถามว่า ลักษณะการแสดงของฟุรุฮาตะซังเหมือนว่าอยู่ดีๆก็เปลี่ยนไป จากที่ผมดูโคเอ็งเมื่อเดือน 2 ก่อนกับในคอนเสิร์ตที่ Gaishi Hall เมื่อเดือน 3 มันน่าตื่นตาตื่นใจมากๆเลยครับ

นาโอะ: เอ๋? งั้นเหรอคะ?

- เอ๊ะ? ไม่รู้ตัวเหรอครับ? (หัวเราะ) เปลี่ยนแปลงไปชัดเจนเลยครับ เหมือนกำลังถืออาวุธที่ไม่มีใครสู้ได้ เต็มไปด้วยความมั่นใจ

นาโอะ: แต่ว่าฉันไม่มีความมั่นใจเลยค่ะ จะว่าไงดี ไม่รู้ว่าบางทีอาจจะมีความรู้สึกบางอย่างเปลี่ยนไปก็ได้ค่ะ แบบว่าอยากให้ SKE48 ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก มีความรู้สึกว่ารากฐานของฉันก็คือ SKE48 ค่ะ อยากให้คนรู้จักตรงนี้มากขึ้น อยากให้ SKE48 ในตอนนี้ดียิ่งขึ้น ความคิดแบบนี้มันออกมาผ่านการแสดงค่ะ

- โฮ่...อย่างนี้นี่เอง

นาโอะ: แล้วก็ บางทีอาจจะกำลังสนุกกับการเป็นไอดอลค่ะ กำลังสนุกกับการได้ร้องเพลงได้เต้น

- ฟุรุฮาตะซังในเพลง “Chicken LINE” ก็สุดยอดมาก เหมือนมีมนต์สะกด ดูมั่นมากเลย (หัวเราะ)

นาโอะ: ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ

- เหมือนทะลุไปอีกมิตินึงเลยครับ นี่เกี่ยวกับละครเวที “Hana yori Dango” ที่ได้เล่นเมื่อตอนเดือน 1-2 หรือเปล่าครับ?

นาโอะ: คิดว่าเกี่ยวกันไม่มากก็น้อยค่ะ ความคิดต่อ SKE48 ก็เปลี่ยนไปด้วย ที่ผ่านมาทำงานไปก็มัวแต่คิดไปว่า SKE48 ควรทำยังไงดีนะ แต่ตอนนี้มุ่งมาที่เรื่องที่ตัวเองจะทำได้...

- เริ่มจะเข้าใจขึ้นแล้วล่ะครับ อยากจะดูว่าถ้าตัวเองทำบางอย่างแล้ววงจะเปลี่ยนแปลงไปทางไหน มันก็เลยสื่อออกมาทางการแสดงสินะครับ?

นาโอะ: ใช่เลยค่ะ! เมื่อก่อนจะชอบกังวลกับตำแหน่งของตัวเอง แต่ตอนนี้ไม่มีเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้วค่ะ นอกเหนือจากวงไอดอล ถึงตัวเองจะยังมีเป้าหมายที่สูงขึ้นไปแต่ตอนนี้เรื่องของ SKE48 อยู่เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องนี้ยังไงก็ไม่สั่นคลอนค่ะ

- ไม่คิดว่าคุณจะคิดไปถึงขนาดนี้ ยังนึกว่าแค่เพราะประสบการณ์จากละครเวทีเองที่กระตุ้นการแสดงของ
ฟุรุฮาตะซัง แต่ว่าไม่มีใครบอกว่า “ดูเปลี่ยนไปนะ” เลยเหรอครับ?

นาโอะ: ไม่มีค่ะ (หัวเราะ) อ๊ะ แต่ว่าเมเนเจอร์ซังเคยบอกว่า “ทัศนคติในการทำงาน เริ่มจะโปรขึ้นแล้วสินะ” แน่นอนว่าเพราะได้สัมผัสโลกภายนอกจากการเล่นละครเวที พอกลับมาที่ SKE48 แล้วคงจะเติบโตขึ้นน่ะค่ะ แต่ในเรื่องการแสดงน่ะนักแสดงคนอื่นที่แสดงด้วยกันเก่งมาก ฉันทำได้ไม่ใกล้เคียงพวกเขาเลย

- งั้นเหรอครับ? พอดีผมได้ไปดูด้วย แต่ดูไม่ออกว่าห่างชั้นกันเลยนะ

นาโอะ: ไม่ค่ะ ฉันไม่ไหวเลย ทั้งหมดเลย! รับรู้ได้เลยว่าทัศนคติในการทำงานของตัวเองยังเด็กเกินไป ใน SKE48 ฉันถูกจัดอยู่ในกลุ่มพี่สาว แต่พอออกมาข้างนอกแล้วก็กลายเป็นแค่เด็กคนนึง ถึงจะคิดว่า”ต้องพยายามให้เต็มที่” แต่ก็ได้รับรู้ถึงความคิดไร้เดียงสาของตัวเองลึกซึ้งเลยค่ะ


โลกภายนอกนั้นต่างกันมาก

- ฟุรุฮาตะซังใน “Hana yori Dango” (รับบทเป็นคุณหนูโทโด ชิซุกะ) จะต้องไปเรียนที่ปารีส ก็เหมือนกันกับที่ออกมาจาก SKE48 มาเรียนที่โลกภายนอกเลยนะครับ

นาโอะ: อ่า จริงด้วยค่ะ

- โทโด ชิซุกะกลับมาจากเรียนต่อที่ปารีส ฟุรุฮาตะซังก็เติบโตขึ้นเมื่อกลับมาที่ SKE48 เหมือนกันเป๊ะเลยครับ

นาโอะ: เรื่องนี้ ไม่เคยคิดเลยค่ะ (หัวเราะ)

- ที่คุณพูดเมื่อกี้ว่า “ได้รับรู้ถึงความไร้เดียงสา” ประสบการณ์การไปเรียนครั้งนี้คงลำบากน่าดูนะครับ?

นาโอะ: นักแสดงทุกคนเป็นมืออาชีพทั้งนั้นเลยใช่มั้ยล่ะคะ ความทุ่มเทในบทบาทที่ได้รับของพวกเขาต่างกับฉันมากจริงๆ พวกเขาศึกษาบทตลอด เก็บทุกๆรายละเอียด ไม่แค่นั้น พวกเขายังสามารถปรับตามที่บอกได้ด้วยสุดยอดจริงๆค่ะ

- เมื่อเดือน 3 ปีที่แล้ว ได้เป็นเมมเบอร์ SKE48 ที่ท้าทายกับละครเวที “AKB49” จากนั้นก็ได้เข้าร่วม “Hana yori dango” ไม่ทราบว่ามีความรู้สึกอย่างไรบ้างครับ?

นาโอะ: คิดว่านี่คงทำให้ฉันเติบโตขึ้นได้ค่ะ ฉันเป็นแค่มือสมัครเล่น ต้องเริ่มนับตั้งแต่หนึ่ง ก็คิดว่า “มันจะต้องเป็นเรื่องดีสำหรับฟุรุฮาตะ นาโอะแน่นอน” ที่ทุกคนเข้มงวดกับฉัน ฉันเข้าใจดีค่ะว่าที่ทำแบบนั้นก็เพื่อฉัน

- เข้มงวดเลยเหรอครับ?

นาโอะ: คราวนี้น่ะ สภาพจิตใจแข็งแกร่งขึ้นมากค่ะ (หัวเราะ) เหมือนโดนบีบจริงๆค่ะ!

- โดนบีบเลยเหรอครับ!

นาโอะ: นี่น่ะ ถึงจะเป็นเพราะว่าฉันทำไม่ได้เอง แต่ตอน “49” ก็ยังเทียบไม่ได้กับเรื่องนี้เลย....

- เดี๋ยวนะครับ พูดถึง “49” ได้ยินว่ายากจนอยากหนีซ้อมเลยไม่ใช่เหรอครับ ถึงขั้นว่ามีเมมเบอร์บางคนเกลียดการซ้อมจนหน้าเขียวไปหมด นี่ยังเข้มงวดกว่า “49” อีกเหรอครับ?

นาโอะ: ใช่ค่ะ ฉันว่าชิโนะ อิซามุซัง(ผู้กำกับ 49)ก็อดทนกับพวกเรามาก เพราะเมมเบอร์ทุกคนไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพ สอนพวกเราด้วยความเข้าใจมากๆ ชิโนะซังอยากทำให้มันออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาอยากให้นักแสดงมีความทรงจำดีๆก็เลยพยายามอย่างมาก แต่พอมาคิดดูตอนนี้ รู้สึกว่าเขาใจดีเกินไปค่ะ (หัวเราะ)

- เป็นโลกที่ต่างออกไปสิ้นเชิงเลยนะครับ แบบถูกดุว่า “เธอนี่มัน!” ทุกวันเลยมั้ยครับ?

นาโอะ: ไม่แรงขนาดนั้นค่ะ ผู้กำกับสอนอย่างใจเย็นมาก การได้รู้ว่าตัวเองทำไม่ได้ต่างหากที่น่าโมโห เลเวลของนักแสดงคนอื่นๆสูงมากจริงๆ ฉันตามพวกเขาไม่ทันเอง ก็ค่อนข้างผิดหวังค่ะ

- เหมือนว่าทั้งๆที่ทุกคนกำลังเรียนเลขม.ปลายอยู่แต่มีแค่ตัวเองที่ยังอยู่แค่ม.ต้น อะไรแบบนั้น?

นาโอะ: ประมาณนั้นค่ะ ตอนแรกก็ไม่อยากร้องไห้ออกมา แต่คิดว่าบางทีการร้องไห้อาจจะแสดงตัวตนออกมาได้ อารมณ์ที่เก็บไว้เลยปล่อยออกมาหมด (หัวเราะ)

- อยากดูตอนที่ซ้อมจังเลยครับ (หัวเราะ)

นาโอะ: ตอนแรกฉันคิดว่า ถ้าฉันร้องไห้จะต้องทำให้ SKE48 เสียชื่อแน่แต่ไม่ได้พูดถึงมัน พอช่วงซ้อมครึ่งหลังก็แทบจะร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ

- ในขณะที่เมมเบอร์คนอื่นกำลังทำงานตามปกติ ตัวเองต้องมาเจอเรื่องแบบนี้คนเดียว

นาโอะ: แม้จะมีนักแสดงคนอื่นๆมาบอกว่าฉัน “สปิริตแรงกล้าจริงๆเลย!” แต่ที่พูดอย่างนี้อาจะเป็นวีธีผลักดันฉันก็ได้ แบบมาพูดประมาณว่า “ถ้าเป็นฉันนะ หนีไปนานแล้ว”

- อยากให้มี making ออกมาจังเลยครับ (หัวเราะ) การได้รับประสบการณ์แบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอครับ? ฟุรุฮาตะซังก่อนจะมาแสดงละครเวทีก็ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว พอได้แสดงก็ยิ่งสุดยอดขึ้นไปอีก

นาโอะ: ดีใจจัง

- เหมือนฟรีซเซอร์ร่าง 3 เลยครับ

นาโอะ: ฟะ ฟรีซเซอร์เหรอคะ?

- ใกล้จะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วนะครับ!

นาโอะ: ยังไงคนเราก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงค่ะ

- ดูเหมือนว่าที่ได้ไปเรียนคราวนี้จะประสบความสำเร็จมากเลย

นาโอะ: เย้! ฉันจะพยายามมากขึ้นค่ะ


อยากจะปกป้องจูรินะ

- เราเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า ที่ Gaishi Hall ได้จัดคอนเสิร์ตจบการศึกษาของมิยาซาว่า ซาเอะซัง มีความรู้สึกยังไงบ้างครับ?

นาโอะ: ตอนที่แสดงอยู่ก็เห็นรอยยิ้มของเมมเบอร์ใช่มั้ยคะ คิดว่าอยากจะปกป้องรอยยิ้มเหล่านั้นไว้ค่ะ

-  มันยิ่งใหญ่มากเลยนะครับ (หัวเราะ)

นาโอะ: ที่ของฉันคือSKE48 ค่ะ เป็นที่ที่เปรียบเสมือนครอบครัว การมีพวกพ้องอยู่เป็นเรื่องสำคัญมาก ฉันไม่ชอบเรื่องที่มาทำให้เมมเบอร์เสียใจ เมื่อซาเอะซังจบการศึกษา ในใจทุกคนก็เป็นกังวลใช่มั้ยล่ะคะ อย่างที่ Gaishi Hall นั้น ฉันไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้นเลยค่ะ

- ความรักที่มีต่อ SKE48 ยังคงเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลายเลย

นาโอะ: แล้วก็คิดว่า ยังไม่ได้ตอบแทน SKE48 ที่ให้ฉันได้ผ่านออดิทชั่นเข้ามาเลย ฉันคิดเรื่องนี้มาตลอด อยากจะขอบคุณ SKE48 แล้วก็ คิดว่าทำในสิ่งที่ฉันพอจะตอบแทนให้ได้ก่อนแล้วค่อยจบการศึกษา ขณะที่ยืนบนเวทีได้มองเห็นแฟนๆที่คอยสนับสนุนพวกเราอย่างมีความสุข ฉันไม่อยากให้ช่วงเวลาดีๆเหล่านี้หายไป ดังนั้นฉันจะไม่ให้การสนับสนุนที่ผ่านมาเสียเปล่าค่ะ

- มีความคิดมากมายเลยนะครับ ตอนที่ยืนอยู่ที่ Gaishi Hall น่ะ

นาโอะ: จากนั้น หลังจากซาเอะซังลงเวทีไป จูรินะซังก็พูดว่า “SKE48 กำลังอยู่ในวิกฤต” ใช่มั้ยคะ ฉันก็คิดในใจว่า “จูรินะซังพูดขนาดนั้นเลยเหรอ...” แม้เธอจะเป็นรุ่นพี่ใหญ่ แต่ว่าฉันอยากจะปกป้องเธอค่ะ ไม่ว่ายังไงเธอก็เป็นหน้าเป็นตาของ SKE48 ตั้งแต่เรนะซังจบการศึกษาไป เธอก็รับภาระหนักอยู่คนเดียว แม้ฉันจะเป็นรุ่นน้องแต่ฉันไม่อยากให้เธอแบกรับภาระนี้ไปตลอด

- เป็นความคิดที่ลึกซึ้งมากๆเลย ตอนที่ส่งซาเอะซัง เมมเบอร์ก็เรียงแถวกัน ตอนนั้นได้คุยอะไรกันบ้างครับ?

นาโอะ: พูดกับฉันว่า “โทษทีนะที่ไม่ได้ไปดูละครเวทีน่ะ รู้สึกเสียดายมากเลยล่ะ” หลังจากที่ฉันตอบไปว่า “ไม่เป็นไรค่ะ!” ก็พูดมาอีกว่า “จากนี้ไปก็ฝาก SKE48 ด้วยนะ”

- การมีซาเอะซังอยู่ เป็นอย่างไรครับ?

นาโอะ: เป็นคนที่ฉันไม่อาจเอื้อมค่ะ ปฏิสัมพันธ์กับผู้คนด้วยความร่าเริงแบบนั้น จิตใจที่งดงาม....เป็นอะไรที่ฉันเลียนแบบไม่ได้เลย

- ไม่หรอกครับ คุณคิดว่าซาเอะซังได้ให้อะไรกับ SKE48 ไว้บ้าง?

นาโอะ: ได้รับความรู้สึกอบอุ่นค่ะ ความรักเป็นสิ่งสำคัญ (หัวเราะ)

- พูดอะไรยิ่งใหญ่อีกแล้ว (หัวเราะ)

นาโอะ: ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆนะคะ! เพื่อให้กล้องถ่ายการแสดงของพวกเราออกมาได้ดีขึ้น เธอก็เป็นตัวแทนไปคุยกับสตาฟฟ์ซัง พูดไปร้องไห้ไป “อยากให้ SKE48 ดีขึ้นอ่ะ!” เวลาคุยกับพวกเมมเบอร์ก็รับรู้ได้ถึงความใจดีของเธอ การได้รับความรักนั้นมาพวกเราก็ร่าเริงขึ้น เพราะงั้นความรักเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ความอบอุ่นนี้คอยนำเราไปในทางที่ดี

- เพราะงั้นฟุรุฮาตะซังเลยเปลี่ยนไปด้วย?

นาโอะ: รู้สึกมีความสุขมากขึ้น สนุกมากขึ้นค่ะ ซาเอะซังเก่งในการสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้น แค่มีซาเอะซังอยู่ก็ทำให้รอยยิ้มเพิ่มขึ้นได้ พอเธอจบการศึกษาไปก็รู้สึกเหงาค่ะ

- พูดถึงเรื่องจบการศึกษา มิยามาเอะ อามิซังที่อยู่รุ่นเดียวกันก็...

นาโอะ: ก่อนที่เธอจะประกาศก็รู้สึกได้นิดหน่อยแล้วค่ะ รับรู้ได้จากบรรยากาศ เธอเป็นพวกโกหกไม่เก่ง

- ถึงอย่างนั้น รุ่น 5 ทยอยออกไปจนเหลือน้อยลงทุกที

นาโอะ: นั่นสินะคะ ใกล้จะเหลือ 4 คนแล้ว เร็วจังเลยน้า คนที่โตหน่อยก็มีแค่ฮัปปี้(ฮารุทามุ)กับฉัน แล้วก็(เอโกะ)ยูนะกับนารุติน(อิจิโนะ นารุมิ)เท่านั้น แต่ว่าอามิตัน(มิยามาเอะ)ยังลงเลือกตั้งอยู่ ก็ยังพอมีเวลาค่ะ ดีใจจัง


การเดิมพันกับงานเลือกตั้ง

- นี่เป็นสิ่งเดียวกันกับที่ได้ยินจากเมมเบอร์คนอื่นๆในเล่มนี้นะครับ ที่ Gaishi จูรินะซังพูดออกมาว่า “SKE48กำลังอยู่ในวิกฤติ” แต่รับรู้ได้จากบรรยากาศว่าเริ่มมีลมเปลี่ยนทิศเกิดขึ้นแล้ว ฟุรุฮาตะซังคิดว่ายังไงครับ?

นาโอะ: ขึ้นอยู่กับว่ามองจากมุมไหนค่ะ ถ้ามองไปที่เป้าหมายข้างบนก็ยังไม่พอ แต่ว่าเป็นเพราะคำพูดของจูรินะซัง พวกเมมเบอร์ก็เริ่มมีความร่วมมือร่วมใจกัน จะบอกว่าเป็นลมเปลี่ยนทิศก็ได้ค่ะ

- นั่นสินะครับ ถ้ามองในมุมที่ต่างกัน คำตอบก็ย่อมต่างกัน

นาโอะ: แต่ว่า พอคิดว่าพวกรุ่นพี่คงจะอยู่ไปตลอดไม่ได้ จะทำยังไงดี? แน่นอนว่าคนที่เป็นเสาหลักของ SKE48 ก็คือพวกรุ่นพี่ ความนิยม การแสดง เอ็มซีที่น่าสนใจในรายการต่างๆ....พวกรุ่นพี่เองก็อยากจะจบการศึกษาเพื่อไล่ตามความฝัน แต่ถ้าพวกเขาจบการศึกษาออกไปแล้ว จะเป็นยังไงล่ะ? พวกรุ่นน้องจะต้องพยายามให้มากขึ้น จะต้องตั้งเป้าหมายสูงขึ้นไปอีก เมื่อมีรุ่นพี่จบการศึกษา ก็จะรู้สึกถึงช่องว่างทุกครั้งเลย “ที่ผ่านมาเราพึ่งเธอมากเกินไป” สถานการณ์ตอนนี้น่ะ คนที่เป็นที่รู้จักมากมีจูรินะซังแค่คนเดียวเอง เป้าหมายของ SKE48 น่ะคือ “อยากขึ้นแสดงงานโคฮาคุ!” (งานขาว-แดง) แล้วก็ “อยากจัดคอนเสิร์ตที่นาโกย่าโดม!” ด้วย แต่ถ้าไม่เป็นที่รู้จักก็คงทำความฝันให้เป็นจริงไม่ได้ ดังนั้นทุกๆคนจะต้องเป็นที่รู้จักให้มากขึ้น...แต่จะว่าไป เรื่องพวกนี้ทำให้รู้สึกว่า “เธอคิดมากเกินไปแล้ว” มั้ยคะ? ถ้าคิดว่าไม่ดีจะไม่เขียนลงไปก็ได้ค่ะ

- ไม่หรอกครับ ผมจะเขียนลงไปหมดเลย (หัวเราะ) เมื่อกี้ที่พูดถึง “งานโคฮาคุ” แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีคำว่า “อยากไปอีกครั้ง!” ออกมาจากปากเมมเบอร์เลยนะครับ

นาโอะ: ถ้าจะพูดออกมาจากปากได้ ความรู้สึกและความมั่นใจจะต้องมีค่ะ แม้ฉันจะไม่รู้ว่าทุกคนอยากจะกลับไปขึ้นเวทีนั้นมากแค่ไหน แต่ก่อนอื่นจะต้องตั้งเป้าหมายของวงก่อนว่าเราจะไปที่ไหน ถ้าเราไม่ตัดสินใจคงไม่ได้ อย่างเช่นการลองลงเดิมพันกับการเลือกตั้งครั้งนี้

- พูดถึงเลือกตั้ง เป้าหมายปีนี้คืออะไรครับ?

นาโอะ: เซมบัตสึค่ะ!

- ชัดเจนมากเลยครับ!

นาโอะ: อยากติดเซมบัตสึค่ะ! ใกล้จะอายุ 20 แล้วด้วย ไม่รู้ว่าจะเป็นไอดอลไปอีกกี่ปี ถ้าเข้าเซมบัตสึได้ ก็อาจจะมองเห็นก้าวต่อไปได้ชัดขึ้น นี่ก็อาจจะเป็นโอกาสที่จะเผยแพร่ SKE48 ออกไปด้วย ปีที่แล้วได้อันดับที่ 24 มา ต่อไปก็ต้องเล็งที่เซมบัตสึค่ะ ปีที่แล้วแฟนๆให้ใบเบิกทางสู่เซมบัตสึมา ฉันก็จะไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง พูดให้ชัดกว่านี้ก็คือ อยากได้อันดับเลขตัวเดียว ถ้าเป็นตำแหน่งที่กล้องจะถ่ายมาฉันก็ดีใจค่ะ (หัวเราะ) มันอาจจะยากแต่ฉันจะไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง!

- พึ่งพาได้จริงๆ! ใน 1 ปีมานี้ รู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นมั้ยครับ?

นาโอะ: วิธีคิดเปลี่ยนไปอย่างจริงจังเลยค่ะ ความรู้สึกที่มีต่อ SKE48 ก็แข็งแกร่งขึ้น เปลี่ยนไปจริงๆค่ะ ปีนี้ชัดเจนมากๆเลย

- กังวลเรื่องจำนวนคนที่จะติดอันดับบ้างมั้ยครับ?

นาโอะ: ปีที่แล้วมีคนติดอันดับเยอะมาก คนทั่วไปที่ดูข่าวก็จะคิดว่า “SKE48 เนี่ยดังจริงๆนะ” เป็นเรื่องที่ดีค่ะ

- ปีนี้ก็รอดูสปีชที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของคุณอยู่นะครับ แบบว่าร้องไห้ไปก็พูดไปว่า “ฉันรัก SKE48 รักมากๆ รักมากๆๆ” (หัวเราะ)

นาโอะ: ดูเหมือนว่าทาคามินะซังก็พูดกับคนรอบข้างด้วยว่า “ร้องแรงจังเลยน้า” (หัวเราะ) ถ้าได้อันดับดีๆ ฉันคิดไว้แล้วค่ะว่าจะพูดอะไร อยากจะขอบคุณ AKB48 เพราะถ้าไม่มี AKB48 ก็ไม่มี SKE48
AKB48 น่ะคือจุดเริ่มต้น ถ้าไม่มีพวกเขา วันนี้ฉันก็อาจไม่ได้มาอยู่ตรงนี้

- ตอบได้งงามจนสุดท้ายเลยครับ (หัวเราะ) งั้น “งานยกย่องฟุรุฮาตะ นาโอะ” ก็คงจบลงแค่นี้ล่ะครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

blogged by 91

[91][bsummary]

Translation

[Translation][bsummary]

Subtitle

[subtitle][bsummary]

Update

[SKEUpdate][bsummary]