วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559

(91)[100%SKE48] แปลบทสัมภาษณ์พี่อายะ (ชิบาตะ อายะ)

พี่สาวเป็นไอดอลระดับท็อป น้องชายเป็นนักเบสบอลทีมมหาวิทยาลัยแบตเตอร์หมายเลข 4
คู่พี่น้องแบบนี้จะมีก็แค่เฉพาะในการ์ตูนเท่านั้นแหละ!
เนื่องด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างที่ถาโถมชิบาตะซังในช่วงนี้
เราจึงเปลี่ยนบรรยากาศโดยการเชิญมาดูการแข่งขันเบสบอลแทน
แต่ทว่า มันกลายเป็นการพูดคุยแบบเจาะลึกซะงั้น

สนามเบสบอลในวันที่อากาศสดใส เสียงเชียร์ของพี่สาวกึกก้องไปบนท้องฟ้า
การมาชมการแข่งขันของน้องชาย (ชิบาตะ โยชิกิ ชมรมเบสบอลมหาวิทยาลัยโฮเซย์ หมายเลข 4 เบสที่ 1)
เป็นครั้งแรก


สมาชิกของบ้านชิบาตะ


- วันนี้ เป็นครั้งแรกเลยครับที่สัมภาษณ์ไป ดูการแข่งขันเบสบอลไป

อายะ: แล้วยังเป็นวันที่อากาศแจ่มใสด้วย ดีจังเลยนะคะ

- นั่นสิครับ จะว่าไป ความสัมพันธ์กับน้องชายเป็นยังไงครับ?

อายะ: ธรรมดามากๆค่ะ ตอนที่ฉันมาโตเกียว บางทีก็ไปกินข้าวกันบ้าง ล่าสุดได้เจอกันแค่ครั้งเดียว ตอนปีใหม่มั้งคะ ช่วงนี้ก็ค่อนข้างยุ่งทั้งคู่เลยไม่ได้เจอกันค่ะ

- นั่นสินะครับ  ช่วงเดือน 2 ทีมเบสบอลมหาวิทยาลัยกำลังเก็บตัวกันพอดี คงจะไม่มีเวลา อยากทราบว่ามีช่วงที่ไม่ลงรอยกันบ้างมั้ย?

อายะ: แม้ว่าจะเรียนห่างกัน 2 ปี แต่จริงๆแล้วเราห่างกันปีเดียวเองค่ะ (ชิบาตะ อายะ เกิดวันที่ 1 เดือน 4) ดังนั้นเลยไม่มีใครโตกว่าใคร ตอนช่วงวัยรุ่นไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่แต่ตอนเด็กๆก็เล่นการ์ดยูกิด้วยกันนะ

- ตอนนี้น้องชายเป็นหมายเลข 4 ของโฮเซย์ เขาเล่นกีฬาเก่งมาตั้งแต่เด็กเลยหรือเปล่า?

อายะ: ตอนอยู่อนุบาลก็เคยเล่นฟุตบอลค่ะ เบสบอลก็เริ่มเล่นมาตั้งแต่อนุบาลเหมือนกัน ตอนประถมตัวสูงมากวิ่งก็เร็วมาก เป็นพวกนักกีฬาประจำในงานกีฬาสี บ้านชิบาตะค่อนข้างเล่นกีฬาเก่งค่ะ คุณพ่อเล่นเบสบอลมาตลอดจนถึงม.ปลายเลยมั้ง ตอนนี้ก็ตีกอล์ฟเป็นประจำ เห็นบอกว่าคะแนนดีสุด 81 คะแนนแน่ะ สกีก็เล่นเก่งมากค่ะ ส่วนคุณแม่ก็เป็นพวกนักกีฬาค่ะ รู้สึกตอนสมัยเรียนก็เล่นกีฬาเหมือนกัน

- สายเลือดนักกีฬาก็เลยตกทอดมาถึงลูกสาวด้วย

อายะ: ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อก็คงใช่ค่ะ (หัวเราะ)

- คงมีแฟนๆไม่น้อยที่ชอบขาของชิบาตะซัง (หัวเราะ)

อายะ: ฮุๆๆ ช่วงนี้ฉันเริ่มเล่นกอล์ฟค่ะ เริ่มเข้าใจแล้วว่าต้องฝึกถึงจะเก่งขึ้น แต่ฉันไม่ชอบกีฬาหรอกค่ะ (หัวเราะ) คะแนนวิชาพละก็ไม่ค่อยดี คือฉันไม่ชอบให้เหงื่อออก

- แต่เวลาขึ้นโคเอ็นเหงื่อไหลเหมือนฝนตกเลยนะครับ (หัวเราะ)

อายะ: เพราะอย่างงั้น พอเข้า SKE48 แล้วถึงได้เหงื่อออกจริงๆจังๆครั้งแรก

- กลับมาที่เรื่องน้องชายหน่อยครับ มีช่วงที่ไม่ยอมเปิดเผยว่ามีน้องชายด้วยสินะ

อายะ: ใช่ค่ะ แค่รู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องบอก เขาเป็นคนธรรมดา ไม่อยากสร้างความลำบากให้เขา แต่อยู่มาวันนึงก็ถูกเปิดเผย

- ทำไมถึงเปิดเผยละครับ?

อายะ: เป็นคนรอบตัวทางฝั่งน้องชายค่ะ พอนักข่าวกีฬารู้เรื่องนี้ก็ไปถามเขาว่า “SKE48 ชิบาตะ อายะ เป็นพี่สาวคุณใช่มั้ยครับ?” น้องชายก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ แล้วก็ได้ลงหนังสือพิมพ์ (หัวเราะ)

- แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจไม่ใช่เหรอครับ พี่สาวเป็นไอดอลที่เข้าเซมบัตสึเลือกตั้ง น้องชายก็เป็นแบตเตอร์หมายเลข 4 ของโฮเซย์

อายะ: ก็ใช่ค่ะ ที่มีข่าวเขียนถึง เขาก็ไม่ได้ไม่ชอบหรืออะไร

- เมื่อก่อนเคยมาเชียร์น้องที่สนามแข่งมั้ยครับ?

อายะ: ไม่เคยค่ะ วันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่มาดูเขาแข่ง

- ครั้งแรกเหรอครับ!

อายะ: ช่วงที่โยชิกิบ้าเบสบอล ฉันกำลังยุ่งกับการเรียน ไม่ได้ออกจากบ้านเลยค่ะ แล้วเดิมก็ไม่ชอบออกไปข้างนอกอยู่แล้ว มีแค่ตอนช่วงแข่งลุ้นว่าโยชิกิจะได้ไปโคชิเอ็งมั้ย ก็ได้ดูทางทีวีนิดหน่อย

- ผมไปค้นมาแล้วครับ ตอนที่น้องยังอยู่โทโฮ (มัธยม) ม.ปลายปี 3 ช่วงฤดูร้อนได้เข้ารอบเพลย์ออฟด้วย แต่ตอนแข่งกับไอโกะไดเมเดงแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย 3 ต่อ 2 ถึงกับร้องไห้ออกมาเลย แต่สามารถไปถึงรอบเพลย์ออฟของจังหวัดไอจิได้ก็สุดยอดแล้วล่ะ!

อายะ: วันนั้นมีซ้อมพอดีค่ะ ดูไปแค่ครึ่งเดียวก็ไม่ได้ดูแล้ว รู้สึกว่าจะร้องไห้หนักมาก

- ตกรอบเพลย์ออฟช่วงฤดูร้อนม.ปลายปี 3 เป็นใครก็ต้องร้องครับ (หัวเราะ) แล้วเรื่องที่พี่สาวเป็นไอดอล น้องชายเคยพูดอะไรมั้ย?

อายะ: แรกสุดเขาก็ปิดเงียบค่ะไม่ได้พูดอะไร น่าเสียดายที่โดยเปิดเผยอย่างไว (หัวเราะ) หลังจากนั้น รู้สึกว่าจะมีเพื่อนมาบอกเขาว่า “(พี่สาวนาย) วันนี้ก็ออกทีวีด้วยนี่” จะว่าไป ตอนเลือกตั้งเขาก็โหวตด้วยเหมือนกัน แถมยังเอาโปสเตอร์เลือกตั้งไปติดที่ห้องด้วย ตลกดีค่ะ (หัวเราะ)

- เป็นน้องชายที่ดีจังเลยนะ

อายะ: แต่เขาชอบมาบอกฉันว่า “อยู่บ้านไม่เห็นจะทำอะไรเป็นเลย คนต้องตกใจแน่ๆ” เพราะฉันทำงานบ้านไม่ค่อยเป็นค่ะ ดังนั้นดาราที่น้องชอบเป็นไทป์ที่ตรงข้ามกับฉันทั้งนั้นเลย

- เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมั้งครับ (หัวเราะ) ในโคเอ็นก็เคยบอกว่า “โอชิของน้องคือไซโต้ มากิโกะ” นี่ครับ

อายะ: เขาบอกว่าหน้าตาแบบนั้นเป็นสเปคเขา แล้วก็บอกว่า “นั่นน่ะน่ารักที่สุด! สวยมาก!”

- ขอถามอีกอย่างนะครับ พวกคุณเรียกชื่อกันยังไง?

อายะ: “อายะ” กับ “โยชิกิ” ค่ะ ฉันไม่มีความรู้สึกเป็นพี่สาวเลย เขาเองก็ทำเหมือนเป็นลูกชายคนโต แต่ว่าเขากับฉันต่างกัน เขาเป็นพวกเพื่อนเยอะ

- แต่พี่สาวกลับเป็นพวกปลีกวิเวก

อายะ: บ้านชิบาตะทุกคนมีอัธยาศัยดี เล่นกีฬาเก่งค่ะ มีแค่ฉันที่มืดหม่นเอาแต่เรียนหนังสือ (หัวเราะ)

- น้องชายเคยไปดูโคเอ็นหรือคอนเสิร์ตบ้างมั้ยครับ?

อายะ: ตอนคอนเสิร์ต “Minogashita Kimitachi e” (เมื่อปี 2011 ที่ TDC hall) ฉันเรียกเขามาค่ะ ที่จริงก็เคยมาดูโคเอ็นที่เธียร์เตอร์ในนาโกย่าเหมือนกัน (หัวเราะ) รู้สึกจะเป็นช่วงสเตจ “Saga Akari” (สมัยอยู่ทีม E) มั้งคะ ให้เขาไปยืนดู ก็รู้สึกผิดเล็กๆเหมือนกัน

- ถ้ามีคนหน้าคล้ายขนาดนั้นมายืนดู แฟนๆก็ต้องสังเกตเห็นสิครับ

อายะ: เหรอคะ?

- ก็คล้ายกันจริงๆนี่ครับ

อายะ: คล้ายเหรอ? ฉันเหมือนคุณพ่อมากกว่า ส่วนโยชิกิจะเหมือนทางคุณแม่ แต่ว่าตาของคุณพ่อคุณแม่ก็โดดเด่นทั้งคู่ล่ะมั้ง



เพื่อนดื่ม


 (ตอนนี้เริ่มการวอร์มก่อนแข่ง)
อายะ: ออกมาแล้ววววว!! ว้าว มองตรงนี้คนดูตัวเล็กไปเลย เมื่อก่อนเคยเป็นแคทเชอร์ไหล่เลยดูใหญ่

- เพราะเจ็บไหล่ เลยเปลี่ยนตำแหน่งมาอยู่เบสแทนสินะครับ

อายะ: ใช่ค่ะ แต่ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันดูเบสบอลหรอกค่ะ เมื่อก่อนก็เคยไปดูการแข่งของ Chunichi Dragons กับคุณพ่อหลายครั้ง ตอนช่วงโกเมซน่ะค่ะ

- ช่วงโกเมซ!

อายะ: หมายเลข 1 ลี หมายเลข 2 ฟุกุโทเมะ หมายเลข 3 คาซุโยชิ หมายเลข 4 โกเมซ ฉันยังอยู่ชั้นประถมอยู่เลย สมัยที่โฮชิโนะ (เซนอิจิ) เป็นโค้ช ตอนนั้นยังได้ลายเซ็นมาด้วย! ตอนนี้ก็ยังติดอยู่ที่บ้านเลยค่ะ

 (อินนิ่งที่ 5 โฮเซย์บุก เคย์โอนำอยู่ 7 แต้ม)
- ....ไม่นึกว่าการแข่งจะออกมาแบบนี้นะครับ

อายะ: ทั้งๆที่ฉันมาดูดันเป็นอย่างนี้...ก็คงต้องดื่มแล้วล่ะ!

- งั้นสั่งเลยนะครับ! โทษนะครับ ขอเบียร์หน่อยครับ!

อายะ: (อึกๆๆ) ฮ่า! นี่มันเทพธิดาแห่งชัยชนะนี่!

- ดื่มได้แค่ไหนครับ?

อายะ: ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไรหรอกค่ะ ดื่มได้แต่ก็คอยยั้งตัวเอง

- ถ้าเมาล่ะครับ จะเป็นยังไง?

อายะ: คงจะยิ้มไม่หยุดเลยมั้ง

- อย่างนี้ก็มีคนชวนดื่มบ่อยสิ!

อายะ: อุฮุฮุ ยังไงก็ไม่ไปดื่มกับผู้ชายหรอกค่ะ (อึกๆๆ) ฮ่า!

 (ตอนนี้ แบตเตอร์ตีลูกไปทางซ้าย)
อายะ: โย้ชช่า!! ตีโดนแล้ว!! แต่ว่าฉันชอบดื่มไป ฟังคนอื่นเล่าเรื่องไปน่ะค่ะ

- แล้วถ้าไปดื่มกับพวกเมมเบอร์ล่ะ?

อายะ: นั่นสินะ ไปกับใครดีน้า...

 (แบตเตอร์คนต่อมาตีลูกได้แต่บอลเบาเกินไป)
อายะ: ว้า!! อ่า  Gettsu ล่ะ!
 (Gettsu  คือ double play ในศัพท์เบสบอลหมายถึง ฝ่ายรับทำให้ฝ่ายรุกเอาท์ได้สองคนติดกัน)

- ได้ยินคำว่า “Gettsu” จากปากชิบาตะซัง รู้สึกแปลกดีนะครับ (หัวเราะ)

อายะ: จริงสิ! ถ้าได้ไปดื่มกับคาโต้ รูมิซังก็คงดีค่ะ เรื่องที่เธอเล่าน่ะมันฮามากเลย จริงๆฉันก็อยากรู้ด้วยว่าเธอคิดกับฉันยังไง แล้วก็เธอคงสอนเรื่องปลาที่น่ากินๆให้ด้วย (หัวเราะ)

- นักตกปลาตัวจริงสินะ

อายะ: แล้วก็ ไซโต้ มากิโกะซังค่ะ ดูเหมือนว่าเธอจะรับภาระการเป็นกัปตันมากเกินไป เพราะงั้นฉันเลยอยากบอกเธอว่า “สนุกกับมันให้มากกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ?” ถึงมันจะไม่ได้ผลก็เถอะ...

 (ในตอนนี้ เบสแรกตีบอลฟาวล์ น้องชายทำพลาด)
- อะเร๊ะ แย่แล้วล่ะ!

อายะ: อ่า...วันนี้ดูจะไม่ได้ผลเลยน้า

- ตอนเอ็นจิ้นคงจะบอกว่า “วันนี้พี่สาวมาดูด้วยนะ”  เลยทำให้ทุกคนใจลอยรึเปล่าก็ไม่รู้นะครับ

อายะ: คงไม่ได้พูดหรอกค่ะ!

- ตอนที่ทีมกำลังแย่เหมือนแบบนี้ ชิบาตะซังจะทำยังไงครับ?

อายะ: ฉันเป็นพวก “ฉันก็คือฉัน” ค่ะ (หัวเราะ) แม้ว่าตอนสมัยทีม E จะมีช่วยเหลือกันบ้าง แต่ที่ทำให้ฉันเปลี่ยนไปจริงๆคือหลังจากย้ายไป KII

- สปิริตแบบ “For the team” ของทีม KII ทำให้ชิบาตะ อายะเปลี่ยนไปเหรอครับ?

อายะ: ใช่แล้วค่ะ!  สมัยก่อนน่ะจะเอาแต่คิดเรื่องผลงานของตัวเอง แต่หลังจากนั้นก็เริ่มคิดถึงชัยชนะของทีมมากขึ้น

- เปรียบเทียบจากการดูแข่งเบสบอลสินะครับ

อายะ: ผลงานของตัวฉันเองจริงๆก็ไม่ได้ดีหรอกค่ะ ตอนทีม KII น่ะ บรรยากาศของทั้งทีมดีมาก การที่ทีมได้รับความสนใจ ก็เริ่มมีคนสนใจฉันมากขึ้น ดังนั้นการชัฟเฟิลครั้งนั้นสำหรับฉันเป็นความสำเร็จค่ะ

- มีคนบอกว่า “เธอดูเปลี่ยนไปนะ” บ้างมั้ยครับ?

อายะ: บอกเยอะมากค่ะ! ฉันที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยไปกินข้าวกับทุกคนในทีมเลย นั่นเป็นครั้งแรกที่ตัวเองคิดอยากจะชวนทุกคนไปกินข้าว

- ทำการปฏิวัติ!

อายะ: ทีม E ในตอนนี้ก็มีพลังดีมากค่ะ แล้วก็มั่นคงมากด้วย ช่วงนี้กำลังเล่นชัฟเฟิลโคเอ็น ได้ขึ้นสเตจกับเมมเบอร์ทีมอื่น มันสนุกมากเลยที่ได้รู้จักอีกด้านที่ไม่เคยรู้มาก่อน เหมือน CE-PA league เลยค่ะ
(CE-PA league เป็นลีกเบสบอลที่เล่นข้ามลีกระหว่าง central league กับ pacific league)

- เอามาเปรียบกับเบสบอล ดีมากเลยครับ

อายะ: รู้สึกเหมือน WBA ละมั้ง?

- WBC ครับ (หัวเราะ)
(WBC ย่อมาจาก World Baseball Classic ถ้วยเบสบอลระดับโลก)

อายะ: อ่า ผิดสินะคะ! นั่นมันบาสเก็ตบอล

- บาสเก็ตบอลมัน NBA ครับ! เมาแล้วมั้งครับ (หัวเราะ)

อายะ: ไม่ค่ะ ไม่ได้เมา!

- งั้นสั่งเพิ่มอีกสักแก้วดีมั้ย

อายะ: ...งั้นเหรอคะ (ยิ้ม) โทษนะคะ ขอเบียร์ด้วยค่ะ (อึกๆๆๆ) ฮ่า!

- ได้ดื่มแบบนี้ดีจังเลยน้า คราวนี้มาคุยเรื่องวงกันดีกว่าครับ มีเมมเบอร์เด็กๆที่เข้าตามั่งมั้ยครับ?

อายะ: มีค่ะ! ช่วงนี้ที่ได้ขึ้นแสดงโคเอ็นด้วยกันแล้วคิดว่าดีมากเลย คือ ฮิดากะ ยูซุกิกับอาซาอิ ยูกะจังค่ะ ยูซุกิน่ะแสดงสีหน้าออกมาได้เป็นผู้ใหญ่มาก น่าชื่นชมมากๆ ส่วนอาซาอิจังรู้สึกได้ว่าเธอมีแววค่ะ แม้ว่าพูดแบบนี้อาจดูอวยเกินไปหน่อย (หัวเราะ) เพลงที่ร่าเริงสดใสเธอทำออกมาได้ดีเกินคาดค่ะ ทำได้ดีไม่แพ้เมมเบอร์ที่ขึ้นแสดงประจำเลย

- พูดอย่างนี้ แปลว่าโหวตของชิบาตะซังอาจจะเทไปให้อาซาอิ ยูกะซังสิครับ

อายะ: อย่างนั้นก็ได้ค่ะ ขอแค่โหวตของฉันเทไปให้เมมเบอร์ SKE48 ก็พอ แต่ว่าก็ยังอยากให้โหวตน่อนเมมากที่สุด (คิโมโตะ คาน่อนและซาคาอิ เม) อยากให้เด็กรุ่น 4 ขึ้นไปสูงๆค่ะ ใน SKE48 มีเด็กอยู่มากมาย ในบรรดาเด็กมัธยม อยากให้พวกเธอโดดเด่นออกมา เป็นเด็กๆที่จะแบกรับ SKE48 ต่อจากนี้ไป

- อย่างเช่น เอโกะ(ยูนะ)จัง

อายะ: ใช่ค่ะ! เอโกะจังน่ะ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น เธอมีโพเทนเชี่ยลมากๆเลยล่ะ

- ชิบาตะซังก็ไม่ได้ลงเลือกตั้งปีนี้...

อายะ: เรื่องนี้เพราะตัดสินใจไว้แล้วน่ะค่ะ


“ความเหมาะสม” กับ “ความสามารถเฉพาะตัว”


- ต่อไปเป็นคำถามเดียวกับที่ใช้ถามเมมเบอร์คนอื่นๆที่ได้สัมภาษณ์ลงในเล่มนี้นะครับ คือมีช่วงเวลาที่วงมีบรรยกาศไม่ค่อยดี ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเริ่มดีขึ้นแล้ว ชิบาตะซังคิดว่ายังไงครับ?

อายะ: ช่วงหลังจาก Mae no Meri บรรยากาศไม่ค่อยดีจริงๆค่ะ ไม่ว่าจะแฟนๆหรือเมมเบอร์ก็โดน “Rena Loss” กันหมด แต่ว่าเรื่องใหญ่อีกเรื่องที่เพิ่งผ่านไป คือ คอนเสิร์ตจบการศึกษาของ (มิยาซาว่า)ซาเอะซัง ช่วงก่อน-หลังคอนเสิร์ตก็มี “Sae-san Loss” ค่ะ

- เป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ

อายะ: เป็นเพราะคำพูดของซาเอะซัง ทุกคนเลยอยากรวมใจกันเป็นหนึ่ง ทุกคนพร้อมสู้เต็มที่ค่ะ เก็บเรื่องราววันนั้นไว้แล้วพยายามสู้ต่อไปค่ะ

- ซาเอะซังเป็นศูนย์กลางของทุกคน ดูเหมือนว่าจะให้พลังความสามัคคีไว้เป็นของขวัญจบการศึกษาสินะ

อายะ: คงจะอย่างนั้นค่ะ การที่ซาเอะซังมาน่ะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่จริงๆ...อืม..

 (ตอนนี้มี double play เกิดขึ้นอีกครั้ง)
อายะ: ว๊า!! Gettsu (double play) อีกแล้ว กี่รอบแล้วเนี่ย!

- วันนี้ 3 รอบแล้วครับ

อายะ: เอ๊ะ เมื่อกี้ถึงไหนแล้วนะคะ?

- ซาเอะซังครับ (หัวเราะ)

อายะ: อ่า ใช่ๆ (หัวเราะ)

- จะว่าไป ในคอนเสิร์ตจบการศึกษา หลังจากที่ซาเอะซังลงจากเวทีไป ก็มีประกาศระบบใหม่ใช่มั้ยครับ มีการแต่งตั้งกัปตันกับรองลีดเดอร์ ทำให้เราพอเห็นฉากต่อไปของ SKE48 เป็นเรื่องที่ดีจัง

อายะ: ใช่ค่ะ!

- แต่ว่าตอนที่เรนะซังจบการศึกษาไม่มีอะไรแบบนี้ ก็เลยทำให้อารมณ์โศกเศร้ามันเหลืออยู่ในใจ

อายะ: นั่นสินะคะ ตอนนี้บรรยากาศของวงก็ผ่อนคลายลงมาก

- มีอีกเรื่องที่อยากจะถามครับ สำหรับ SKE48 ช่วงเวลาของ WMatsui เป็นช่วงที่ยาวนาน ไม่ใช่แค่สองคนนี้ แต่ยังมีช่วงที่ชิบาตะ อายะ ทาคายานางิ อากาเนะ สุดะ อาคาริ 3 คนที่แข่งกันช่วงชิงตัว “A” กันอยู่ด้วย
(T/N note: ตัว A คือตัวอักษรย่อของชื่อ เหมือนเบิ้ลอิเป็น JR เนื่องจาก 3 คนนี้ตัวอักษรย่อเป็นตัว A เหมือนกัน เลยต้องแย่งกันหน่อย)

อายะ: มีฉันเข้าไปแข่งกับเขาด้วยเหรอคะ? ขอบคุณค่ะ (หัวเราะ)

- ผมว่าทั้งหมดเป็นคนที่เอื้อมถึง WMatsui ได้ครับ เพื่อจะเป็นแบบนี้ได้ คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นต้องมีครับ?

อายะ: อะไรน้า...ฉันน่ะเป็นพวกขบถ เป็นประเภท “ไม่มีทางเข้าเซมบัตสึได้หรอก!” ตอนนั้นฉันเอาแต่แข่งกับตัวเอง เพราะอยากเข้าเซมบัตสึนั่นแหละ ฉันถึงได้พยายามสุดชีวิตทั้งในโคเอ็นและงานจับมือ แต่ว่าจะสนใจแค่งานจับมือก็ไม่ได้ มันเป็นคนละเรื่องกับการเอาชีวิตรอดในวงการบันเทิงค่ะ

- นั่นสินะครับ

อายะ: การมีแฟนๆเยอะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่ว่าถ้าจะให้ดีไปกว่านั้นต้องมีความสามารถเฉพาะตัวค่ะ ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมานี้ฉันไม่ค่อยได้สนใจแล้วว่าบัตรจับมือจะขายดีมั้ย แน่นอนว่าตราบใดที่ยังอยู่ในวงฉันก็ทุ่มเทกับมันเหนือสิ่งอื่นใดอยู่แล้ว แต่เรื่องในอนาคตก็ต้องคิดค่ะ ทั้งเรื่อง“ความเหมาะสม” ทั้งเรื่อง “ความสามารถเฉพาะตัว” แล้วก็ต้องเรียนรู้ที่จะขยายขอบเขตมุมมองของตัวเองออกไป

- “ความสามารถเฉพาะตัว” ตรงนี้ มีเมมเบอร์ที่น่าสนใจมั้ยครับ?

อายะ: (โกโต้) ราระค่ะ! พูดอังกฤษได้ ตีกอล์ฟก็เก่ง แล้วยังตั้งใจพยายามแบบสุดๆ ความสามารถสูงมากค่ะ (ฟุรุฮาตะ)นาโอะจังก็ร้องเพลงเก่ง ฝีมือการแสดงก็ดี (อาซุม่า)ริองก็เหมือนกัน มีจุดที่น่าดึงดูดเยอะมาก น่าอิจฉาจริงๆค่ะ

- ก็คือ ตอนนี้มีรุ่นน้องหลายคนที่ทำให้รุ่นพี่อิจฉาได้

อายะ: ใช่ค่ะ! แต่ว่าก็ต้องมีเด็กอย่างยูนานะที่แฟนๆหลงหัวปักหัวปำอยู่ด้วย การที่มีเด็กๆที่ไม่เหมือนกับจูรินะซังและเรนะซังแข่งกันอยู่แบบนี้ เป็นสิ่งที่เราอยากเห็นไม่ใช่เหรอคะ

(การแข่งขันจบลง โฮเซย์แพ้ไป 1-11)
อายะ: อ๊า!! แพ้ซะแล้ว!

- อดเป็น “เทพธิดาแห่งชัยชนะ” เลยนะครับ...

อายะ: อืม...สงสัยต้องมาล้างตาซะแล้ว ตอนลีกฤดูใบไม้ร่วงคงต้องมาดูแล้วล่ะ! สัญญาเลยค่ะ!



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

blogged by 91

[91][bsummary]

Translation

[Translation][bsummary]

Subtitle

[subtitle][bsummary]

Update

[SKEUpdate][bsummary]