ในที่สุดเซนเตอร์ก็เปลี่ยนมือ! SKE48 จะเกิดอะไรขึ้นนะ
"เงื่อนไขของการเป็นแชมเปี้ยน"
ภูเขาสั่นคลอน เมื่อคนที่ถูกเลือกเป็นเซนเตอร์แทนที่มัตสึอิ
จูรินะผู้เป็นไพ่ตายตลอดกาล กลับไม่ใช่คิตากาว่า เรียวฮะผู้แบกรับความคาดหวังของรุ่นต่อไปมานาน
SKEในตอนนี้กำลังอยู่ในคลื่นลูกใหญ่
แล้วทั้งสองคนคิดยังไงกันแน่นะ
ข้อความ LINE ที่คุยกับรุ่นน้อง
- วันนี้เป็นวันสัมภาษณ์เกี่ยวกับซิงเกิ้ลใหม่ของ SKE Igai ni
Mango ดังนั้นเราคิดว่าในอนาคตคงจะได้พูดคุยเกี่ยวกับเพลงใหม่เรื่อยๆ...
จูรินะ: แต่วันนี้ไม่ได้จะคุยเรื่องนี้ ใช่มั้ยคะ?
- ก็ตามนั้นแหละครับ (หัวเราะ) คำถามแบบว่า “เป็นเพลงแบบไหน?” หรือ
“ท่าเต้นที่น่าสนใจคือ?”
เราคิดว่าคนอ่านหนังสือเราไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ดังนั้นเราเลยอยากจะคุยในมุมที่ต่างออกไป
ไม่ว่ายังไง เราก็อยากคุยเกี่ยวกับซิงเกิ้ลใหม่นี่
เรื่องที่ใหญ่ที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องที่โอบาตะ ยูนะซังได้เป็นเซนเตอร์ครั้งแรก
จูรินะ: SKE48 ไม่มีทางทำลายสิ่งที่สร้างมาจนถึงวันนี้หรอกค่ะ
แต่ฉันคิดว่าการปกป้องสิ่งสำคัญไปพร้อมกับสร้างกระแสลูกใหม่เป็นเรื่องจำเป็น เพราะงั้นฉันเลยคิดว่าคงจะ
“ถึงเวลาแล้ว” ล่ะ
- ภาษามวยปล้ำออกมาเร็วเกินไปแล้ว!
นี่มาจากคำพูดของฮาชิโมโต้ ชินยะ(นักมวยปล้ำ) ใช่มั้ยครับ
“ไม่มีการทำลายก็ไม่มีการสร้าง”
จูรินะ: ค่ะ อีกอย่าง ฉันก็ป้องกันตำแหน่งเซนเตอร์ไว้ไม่ได้
- เรื่องนี้เมื่อเดือน 12 ปี 2014 ตอนเพลง 12 gatsu no
Kangaroo ที่คิตากาว่าซังกับมิยามาเอะ อามิซังเป็นเซนเตอร์คู่ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
จูรินะ: นอกจากตอนนั้นก็ยังมี Mae no meri ของ
(มัตสึอิ) เรนะจังด้วย แต่ว่าเพราะเป็นซิงเกิ้ลจบการศึกษา
ดังนั้นถ้าดูแล้วก็คงตั้งแต่ 12 gatsu no Kangaroo นั่นแหละนะ
ช่วงนี้เรียวฮะ (ฟุรุฮาตะ) นาโอะจังแล้วก็คุมะจัง (คุมาซากิ ฮารุกะ)
ก็พูดกับฉันเหมือนกันหมดเลยว่า “จะชิงตำแหน่งเซนเตอร์จากจูรินะซัง”
พอถูกบอกอย่างนี้ จะไม่ป้องกันตำแหน่งก็ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะคะ
- ก็ตัวเองเป็นเสมือนแชมเปี้ยนนี่นะ
จูรินะ: ค่ะ เพราะงั้น ก็เลยรู้สึกเจ็บใจนิดหน่อย แต่ฉันก็อยากจะเห็น
SKE48 รูปแบบใหม่ต่อจากนี้มากๆเลย
- พูดอีกอย่างก็คือ ยินดีที่โอบาตะซังเป็นเซนเตอร์มากๆเลยใช่มั้ย?
จูรินะ: ใช่ค่ะ! ฉันว่าที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะว่ามันคือตอนนี้ไง
- ถ้างั้น ทางนี้ล่ะครับ เรียวฮะซังรับมือยังไงบ้าง?
เรียวฮะ: รับมืออะไรคะ?
จูรินะ: แป่ววว!
- ตั้งใจฟังหน่อยสิครับ! เราจะถามว่า
ตอนที่ได้ยินว่าโอบาตะซังเป็นเซนเตอร์ รู้สึกยังไงครับ?
เรียวฮะ: ตอนที่รู้เรื่องเหรอคะ?
จูรินะ: ใช่ พูดมาตามตรงเลยนะ
เรียวฮะ: “อ่า (ฉัน) ไม่ได้เป็นแฮะ” แบบนี้ค่ะ
ฉันคิดว่าฉันในตอนนี้ยังเป็นไม่ได้หรอกค่ะ
- เรื่องนี้ คิดหนักเลยรึเปล่า?
เรียวฮะ: ค่ะ ก่อนหน้านั้นไม่นานก็มีประกาศผลด่วนเลือกตั้งAKB48
ตอนนั้นน่ะบ่งบอกอะไรหลายๆอย่าง ที่จริงแล้วในผลด่วน ชื่อยูนานะ (โอบาตะ)
อยู่สูงกว่าเรียวฮะอีก
- ในผลด่วน เรียวฮะซังอันดับ 67 โอบาตะซังอันดับ 42
ตรงนี้ไม่ว่ายังไงก็คงมีเปรียบเทียบแน่
เรียวฮะ: มีค่ะ ฉันชอบเปรียบเทียบกับคนอื่น แม้ว่ามันจะไม่ค่อยดีก็ตาม
จูรินะ: แต่ว่า เรียวฮะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกแบบนั้นออกมานะ
เรื่องนี้ถ้าเป็นมวยปล้ำล่ะก็...
- จูรินะซัง โยงเข้าเรื่องมวยปล้ำไวเกินไปแล้ว! โธ่
เราอุตส่าห์กะว่าจะโยงเข้าเรื่องนี้ตอนสุดท้าย (หัวเราะ)
จูรินะ: ไม่ว่าจะในมุมมวยปล้ำ ในมุมไอดอล ในมุมของแฟนๆ...
- มุมมองปนกันมั่วจนแยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นอันไหนแล้วเหรอครับ?
จูรินะ: ฮุๆๆ ยังไงแฟนๆก็สนับสนุนพวกเราอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ
เวลาได้ยืนในจุดที่เป็นคนสนับสนุน พอได้ยินอีกฝ่ายบอกว่า “เจ็บใจ” ก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มร้อนแรงขึ้นมา
แม้ฉันจะไม่ชอบแสดงออกว่าเจ็บใจออกไปเหมือนกัน แต่แฟนๆน่ะบอกฉันว่า
“อยากให้พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆนะ” แล้วพอฉันเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาตรงๆ
ก็รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดแฟนๆมากขึ้น ทำให้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันด้วย
เพราะงั้นตอนนี้ขนาดฉันไม่ได้พูดอะไร (แฟนๆ) ก็ยังเข้าใจความรู้สึกฉันเลยล่ะ
ดังนั้นแฟนๆเรียวฮะก็คงอยากให้เรียวฮะพูดตรงๆบ้างเหมือนกัน
- ในบล็อกก็มีเขียนแสดงความรู้สึกแบบนั้นอยู่นี่ ใช่มั้ยครับ
เรียวฮะ: ค่ะ เมื่อวานใน SHOWROOM ฉันก็พูดเรื่องที่คิดออกมาหมดเลย
จูรินะ: งั้นเหรอ! พูดอะไรบ้างล่ะ?
เรียวฮะ: ความเจ็บใจตอนประกาศผลด่วนค่ะ ตัวฉันเองแม้ว่าที่ผ่านมาจะได้รับโอกาสค่อนข้างเยอะ
แต่กลับไม่ค่อยมีผลงานที่เด่นชัด อะไรประมาณนี้
แต่ว่าฉันเองก็ไม่ชอบที่ตัวเองไม่อาจพูดเรื่องนี้ไปตรงๆได้
ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงได้แต่รับสภาพ คิดแต่ว่า “ยังไงคนอย่างฉันก็คง...” แต่ไม่นานมานี้ฉันไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยน่ะค่ะ
- ไม่อยู่กับร่องกับรอยเหรอ?
เรียวฮะ: วัยต่อต้าน? ไม่อยู่ในร่องในรอย? ไม่เชื่อฟัง? มันเรียกว่าอะไรนะคะ?
จูรินะ: หมายถึงทั้งที่เป็นลีดเดอร์น่ะเหรอ? แบบนี้จะทำให้คนอื่นลำบากใจนะ
ลีดเดอร์!
เรียวฮะ: มีบางอย่างที่แย่ลงด้วยค่ะ ตำแหน่งยืนกับความนิยมน่ะ
(ไม่ไปในทางเดียวกัน) ฉันมาสุดได้แค่นี้รึเปล่านะ? คิดในด้านลบมากๆ แม้ว่าฉันจะเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
แต่ช่วงหลังนี่ฉันคิดแบบนั้นเยอะมากเลยค่ะ จะบอกว่าช่วงนี้ ก็ช่วงหนี่งปีที่ผ่านมานี่แหละค่ะ
ทั้งหงุดหงิด ทั้งท้อใจ แบบนี้มันเรียกว่าอะไรคะ?
จูรินะ: ฉันก็เป็น! (หัวเราะ)
เรียวฮะ: ยอมแพ้?
- ความเป็นจริงไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้สินะ
เรียวฮะ: ความรู้สึกร้อนใจนี่ ไม่รู้จะทำยังไงดี
- คุณคิดว่าอยากให้ตัวเองเป็นแบบไหน มีวาดภาพไว้มั้ยครับ?
เรียวฮะ: อื้ม...
- ตอนที่หนักใจไปปรึกษาใครครับ?
เรียวฮะ: ไม่ได้ปรึกษาใครค่ะ...ได้แต่เก็บไว้ในใจ
- คนที่น่าไปปรึกษาด้วยก็อยู่ข้างๆนี่ไม่ใช่เหรอครับ?
เรียวฮะ: อย่างนั้นฉันคงรู้สึกผิดน่ะค่ะ ถ้าคนอย่างฉันไปทำให้จูรินะซังลำบากใจล่ะก็
จูรินะ: ไม่ลำบากใจซะหน่อย!
- จูรินะซัง เรียวฮะซังไม่ยอมเดินไปข้างหน้าแล้วครับ
จูรินะ: แต่ว่า พวกเรามี LINE กลุ่ม Love Crescendo อยู่ ถ้าเข้าไปคุยในนั้นทุกคนก็จะมาตอบ
เพราะคิดอะไรหลายๆอย่างอยู่ ฉันเลยคิดว่าฉันคงต้องเป็นคนถามเท่านั้น
ปรากฎว่าความเห็นของทุกคนที่ออกมามันร้อนแรงมาก แบบว่า “ฉันอยากเป็นคนที่สามารถนำ SKE48 ไปได้ค่ะ”
ไม่ก็ “เพราะรัก SKE48 ฉันก็อยากจะเป็นกำลังหลักให้ได้มากกว่านี้ค่ะ”
ได้ยินแล้วน่าดีใจจริงๆ
คุณสมบัติของผู้ได้คาดเข็มขัดแชมป์
- ปลายเดือน 2 เมื่อยากาตะ มิกิซังจบการศึกษา
เรียวฮะซังก็รับตำแหน่งลีดเดอร์ทีม S คนใหม่ มีแนวคิดที่จะให้เปลี่ยนแปลงอะไร
หรือตั้งใจจะสร้างอะไรใหม่ๆมั้ยครับ?
เรียวฮะ: ฉันคิดว่ายังไงก็ต้องทำค่ะ แต่ว่าตอนช่วงที่เป็นลีดเดอร์ใหม่ๆ
เป็นช่วงที่ฉันไม่อยู่กับร่องกับรอยสุดๆพอดี
ดังนั้นเลยรู้สึกว่าที่ได้รับตำแหน่งนี้ เหมือนถูกบอกว่า “ลองสู้อีกซักตั้งเถอะ”
ยังไงยังงั้น
จูรินะ: ใช่แล้ว เธอได้รับความคาดหวังมากเลยล่ะ
เรียวฮะ: ฉันคิดว่าได้รับโอกาสมาอีกแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ทำให้ฉันอยากย้ำอีกครั้งว่าจะต้องสู้ต่อไป
- จูรินะซัง สเตจทีม S ช่วงนี้ รู้สึกยังไงบ้างมั้ยครับ?
จูรินะ: ไม่ว่าใครเป็นลีดเดอร์ก็จะต้องเป็นคนสรุปภาพรวมของการแสดงแต่ละรอบ
ดังนั้นฉันคิดว่าเธอทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างดี ฉันเองตอนอยู่หลังเวทีก็เคยเห็นเหมือนเธอกำลังคิดอะไรซักอย่างอยู่แบบสุดชีวิต
เรื่องพวกนี้น่ะเป็นสิ่งที่ในระหว่างทำๆไปก็จะฝึกได้เอง
เหมือนอย่างที่สัมภาษณ์กันวันนี้ เทียบกับเมื่อก่อนก็พูดเก่งขึ้นตั้งเยอะ
- เรียวฮะซังในฐานะที่เป็นทีมลีดเดอร์ มีเรื่องไหนที่ต้องระวังมั่งมั้ยครับ?
เรียวฮะ: ฉันมีความสุขมากกับมิยาซาว่าทีม S และยากาตะทีม
S ค่ะ
รู้สึกว่า “ได้อยู่ทีม S นี่ดีจริงๆ” อยู่บ่อยๆ ดังนั้นพอตอนนี้เป็นคิตากาว่าทีม S แล้ว
ยังไงก็ไม่อยากให้ทุกคนรู้สึกกังวล แต่ฉันคิดว่าฉันยังมีเรื่องที่ทำให้ทุกคนกังวลอยู่
จูรินะ: ลีดเดอร์น่ะ มีอยู่สองแบบนะ แบบแรกคือแบบที่พึ่งพาได้
อีกแบบเป็นแบบที่ทำให้คนอื่นอยากพยายามไปกับเขา อยากจะสนับสนุนเขา ทีม S
ทุกคนอยากพยายามไปพร้อมๆกับเรียวฮะ ดังนั้นฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาหรอก จริงสิ
เมื่อไม่กี่วันก่อนในสเตจจบการศึกษาของไมไม (ทาเคอุจิ ไม) ที่ก่อนเอ็นจิ้น เรียวฮะตะโกนบอกว่า
“พอฉันพูดว่า “ไมซัง” ให้ทุกคนตะโกนว่า “รักที่สุด!” นะ”
ฉันว่ามันน่ารักมากเลยล่ะ (หัวเราะ)
- เรียวฮะตันรับหน้าที่ตอนเอ็นจิ้นเหรอ! ถึงมันจะเป็นหน้าที่ของลีดเดอร์อยู่แล้วก็เถอะ
จูรินะ: รู้สึกว่าเป็นเรียวฮะมากๆเลยล่ะ เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยตะโกนแบบนี้ ฉันเลยรู้สึกว่ามันน่ารักมาก
จากนั้นฉันก็ตั้งหน้าตั้งตารอว่าตอนสเตจวันเกิดฉันจะพูดอะไรแบบนี้มั้ยน้า
ปรากฎว่าไม่มี (หัวเราะ)
เรียวฮะ: เอ๋!!
จูรินะ: ดูเหมือนว่าจะทำเฉพาะสเตจจบการศึกษาเพราะสเตจวันเกิดน่ะมีจัดอยู่เรื่อยๆ
ไมไมเองพอได้ยินแบบนั้นก็ปล่อยโฮออกมาเลย เรื่องพวกนี้สุดยอดไปเลยนะ
- พวกเราอยากฟังเรื่องแบบนี้แหละครับ ในฐานะลีดเดอร์ เรียวฮะซังคุยกับเมมเบอร์ยังไงบ้างครับ
แบบคล้ายๆกับเรื่องนี้น่ะ
เรียวฮะ: ฉันเคยอยากบอกว่า อยากให้แสดงความรู้สึกสนุกออกมาค่ะ
จูรินะ: อย่างเช่นพูดเรื่องเป้าหมายรึเปล่า? ประมาณว่า
“วันนี้คนที่มาดูทุกคนจะต้อง...?” “สบตาด้วย!”
เรียวฮะ: อ่า นั่นสิคะ แม้เดิมทีฉันจะเป็นพวกชอบคิดมากอยู่แล้วแต่หลังจากได้เป็นลีดเดอร์แล้วก็มีเรื่องให้ต้องคิดมากขึ้นอีก
- เราก็คิดอย่างนั้นครับ (หัวเราะ)
วันนี้พวกเราอยากให้เรียวฮะซังปรึกษาเรื่องหนักใจกับจูรินะซัง
ก็เลยจัดสัมภาษณ์นี้ขึ้น ในนิตยสารเดือน 4 จูรินะซังก็ได้คุยกับทานาฮาชิ ฮิโรชิซัง
(นักมวยปล้ำ) ไม่ใช่เหรอครับ?
จูรินะ: ฮุๆๆ
- พวกเราอยากให้วันนี้จูรินะซังรับบทเป็นทานาฮาชิน่ะ
จูรินะ: ฮ่าๆๆๆๆๆ
- งั้น จูรินะได้ฟังเรื่องเมื่อครู่นี้แล้ว จะตอบว่ายังไงครับ?
จูรินะ: ในมุมองของ SKE48 คนนึง ฉันรู้สึกว่าเป็นสถานการณ์ที่ดีมาก
- นั่นสินะ เพราะตอนนี้ก็เป็นวงที่มีผู้ท้าชิงโผล่ขึ้นมาเยอะมาก
เป็นสถานการณ์ที่ร้อนแรงเลยทีเดียว
จูรินะ: ใช่ค่ะ! แต่ว่า ถึงเรียวฮะจะอยากได้เข็มขัดแชมป์
แต่ก็ยังไม่ได้สิทธิ์ท้าชิงนะ
- ผู้ท้าชิงต้องเป็นยังไงครับ?
จูรินะ: ก่อนอื่น ต้องมีอะไรซักอย่าง แค่อย่างเดียวก็ได้ที่จะไม่ยอมแพ้ให้ใคร
ฉันคิดว่าถ้าไม่มีแบบนั้นจะไม่มีทางเป็นแชมป์ได้
- เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นในตัวเองด้วย
จูรินะ: ใช่ค่ะ! ตอนที่ดูมวยปล้ำ ก็จะเห็นว่าไม่ว่านักกีฬาคนไหนก็จะมีความเชื่อมั่นในตัวเองทั้งนั้น
อกผายไหล่ผึ่ง แค่ภายนอกก็ส่งออร่าออกมาแล้ว มันคือการแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีความมั่นใจ
ถ้าเป็นเมมเบอร์ล่ะก็ ซายาเน่ (ยามาโมโตะ ซายากะ) เป็นประเภทนั้นแหละ
ฉันก็เป็นแบบนั้น แล้วก็คนที่จบการศึกษาไปแล้วอย่างโอชิม่า ยูโกะซังก็ด้วย
แต่มาเอดะ (อัตสึโกะ) ซังกับพารูรุ (ชิมาซากิ ฮารุกะ)
ซังน่ะเป็นประเภทที่ไม่ว่าจะถูกใครว่าอะไรก็ไม่ใส่ใจ ไม่เหมือนกับฉันและซายาเน่
เรียวฮะ: อื้มๆ...
จูรินะ: แม้บางทีอาจจะถูกคนพูดแรงๆใส่
แต่ฉันคิดว่าเพราะมีจิตใจที่แข็งแกร่งแบบนั้นถึงเป็นเซนเตอร์ได้ ถ้างั้น
เรียวฮะล่ะเป็นยังไง ถ้าบอกว่าบางครั้งก็ใส่ใจคนอื่นเกินไป บางครั้งก็อ่อนแอ
แล้วจะต้องมาแก้นิสัยพวกนี้ มันไม่ยากไปหน่อยเหรอ? ฉันเองก็เป็นคนขี้กังวลเหมือนกัน
ก็เลยเข้าใจ ในเมื่อไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ งั้นแค่มีความเชื่อมั่นก็พอแล้ว
ฉันคิดว่าการค้นพบ “เรื่องนี้แหละที่ฉันเก่งกว่าใครใน 48 กรุ๊ป!”
เป็นทางลัดสู่แชมเปี้ยน
- งั้นมันคืออะไรล่ะ?
เรียวฮะ: เรื่องที่ทำให้เราเป็นแชมป์ได้งั้นเหรอ...เห...?
จูรินะ: อะไรก็ได้ ถ้าเป็น (โกโต้) ราระก็คงเป็นภาษาอังกฤษล่ะ
เรียวฮะ: …..
จูรินะ: ความถนัดก็ได้ หรือด้านจิตใจก็ได้นะ
เรียวฮะ: ….
- ดูเหมือนจะนึกไม่ออกนะครับ (หัวเราะ) ในมุมมองของจูรินะซัง
จุดแข็งของเรียวฮะคืออะไรครับ?
จูรินะ: เรียวฮะน่ะ...พละกำลังเหลือล้น!
- พละกำลัง! เป็นมุมมองที่น่าแปลกใจมากทีเดียว
จูรินะ: มีกล้ามเยอะเลยแหละ
- กล้ามจากการฝึกเทนนิสน่ากลัวจริงๆ (ในงานทูชอตหลังจากการสัมภาษณ์นี้
มีการวัดพลังบีบมือ เธอทำได้ถึง 39.5kg สูงสุดในประวัติศาสตร์ไอดอล!)
จูรินะ: มัดกล้ามนั่นสุดยอดเลย!
เรียวฮะ: ใช่ค่ะ
จูรินะ: งั้นถ้าเป็นสายพละกำลังล่ะ? เธอทั้งพลังเยอะ แล้วก็ทนแดดด้วย
- ไอดอลทนแดด!
เรียวฮะ: เพราะชมรมเทนนิสสมัยมัธยมเข้มงวดมาก ก็เลยไม่เป็นไรค่ะ
- แม้แต่เต้นก็ไม่เหนื่อยเหรอ?
เรียวฮะ: เหนื่อยสิคะ แต่ฉันชอบพวกการแข่งมาราธอนที่สุดค่ะ เพระงั้นฉันก็เลยจะไม่ยอมแพ้ใคร
การวิ่งระยะไกลเป็นการต่อสู้กับตัวเอง ยอมแพ้ปุ๊บก็เท่ากับจบใช่มั้ยล่ะคะ?
ฉันชอบเอาชนะจุดอ่อนของตัวเองน่ะค่ะ
จูรินะ: ใน SHOWROOM ก็เต้น endless Oki Doki ดูสิ?
เรียวฮะ: ได้แน่นอนค่ะ
- ดีไม่ดีอาจจะกลายเป็นตำนานเลยก็ได้นะครับ ทุกคนคงบอกว่า
“เรียวฮะสุดยอด!”
จูรินะ: แบบนี้แหละ ทำเรื่องที่คนอื่นทำไม่ได้
เรียวฮะ: คราวหน้าจะลองดูนะคะ
- นี่อาจโยงไปถึงความเชื่อมั่นในตัวเองด้วยนะ
จูรินะ: ใช่! เพราะ “มีแค่เรื่องนี้ที่จะไม่ยอมแพ้ใคร”
สิ่งนี้แหละที่จะกลายเป็นความเชื่อมั่น
ใช้มวยปล้ำเป็นบทเรียน
- ที่คุยกันเมื่อกี้เป็นความเห็นในมุมของเมมเบอร์หมดเลย
อยากให้จูรินะซังผู้ได้พบมวยปล้ำเปลี่ยนชีวิตช่วยอธิบายแก่นแท้ของมวยปล้ำให้เรียวฮะซังหน่อยครับ
จูรินะ: อ่ะ หมายถึงว่าให้ไปดูมวยปล้ำด้วยกันรึเปล่าคะ? ได้เลย!
- เรียวฮะซังสนใจมั้ยครับ?
เรียวฮะ: แม้ว่าบางทีจะเคยดูในทีวีบ้าง แต่พอดูแล้วรู้สึกเจ็บ
ทนดูไม่ได้ค่ะ...
- จูรินะซังเมื่อครึ่งปีก่อนก็เป็นอย่างนี้นะครับ
เรียวฮะ: ถึงแม้คุณพ่อจะดูบ้าง แต่ฉันกลัวความเจ็บก็เลยดูไม่ลง
จูรินะ: หมายถึงพวกเสียงร้องอะไรแบบนี้หรอ?
เรียวฮะ: ใช่ค่ะ
จูรินะ: นั่นน่ะสุดยอดแล้ว!
เรียวฮะ: เอ๋!!
จูรินะ: ประมาณว่า “ได้ส่งเสียงที่เจ๋งๆออกไปแล้ว” แบบนี้อ่ะ
- วิธีดูอย่างนี้ก็มีนะครับ เหมือนเป็นบทเรียนที่ให้เรียนรู้ในมุมมองของสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง
แบบนี้น่ะ
จูรินะ: ใช่แล้ว เหมือนไอดอลเลยล่ะ
เรียวฮะ: งั้นเหรอคะ? ไว้จะลองไปดูค่ะ
- เป็นคำใบ้ “เพื่อให้เรียวฮะซังมาเป็นผู้ท้าชิงอีกครั้ง” ที่ซ่อนอยู่น่ะครับ
ถ้ามองในมุม Shin Nihon Pro wrestling ล่ะก็
จะต้องมีนักกีฬาที่มีสถานการณ์คล้ายกับเรียวฮะซังอยู่แน่ๆ
จูรินะ: ไนโต้ (เท็ตสึยะ) ช่วงก่อนก็อาจจะเป็นอย่างนี้ก็ได้นะคะ
- ถึงแม้จะมีช่วงที่หยุดอยู่กับที่ก็ตาม
จูรินะ: แต่ตอนนี้เป็นตัวร้าย เป็นคาแรคเตอร์ที่ดังมากเลย
- เพียงแค่มีโอกาสครั้งเดียวก็เอาคืนได้แล้ว
เรียวฮะ: เก่งจัง!
- เพราะว่าถ้า “ดูเหมือนจะเจ็บ” แล้วหยุด ก็จะมองไม่เห็นสิ่งอื่น
ถ้าได้ไปที่สนามกับจูรินะเซนเซย์ล่ะก็ คำใบ้นั้นจะต้องค่อยๆโผล่มาแน่
จูรินะ: ใช่! ฉันก็เหมือนกันผ่านไปครึ่งปีก็ได้เข้าใจอะไรๆเยอะเลย
เรียวฮะ: มวยปล้ำสุดยอดเลย!
- แม้ว่าจูรินะซังจะซึมซับเข้าไปเกินปกติก็ตาม
จูรินะ: ฉันได้เข้าใจความรู้สึกของคนเชียร์อย่างถ่องแท้ด้วยนะคะ อย่างเช่น
“เพราะนักมวยปล้ำพูดแบบนี้กับพวกเรา ก็เลยอยากจะสนับสนุน” หรือไม่ก็ “ถ้าพูดแบบนี้อีกนิดนึงจะร้องเฮแล้วนะ”
อะไรแบบนั้น เราจะรู้สึกอยากต่อสู้ไปกับนักมวยปล้ำน่ะ
เรียวฮะ: เอ๋ งั้นเหรอคะ
- เผชิญหน้ากับผู้ท้าชิง แสดงออกไปว่า “ฉันจะท้าทายแก!”
เรื่องแบบนี้ SKE48 ก็อาจจะมีเหมือนกัน ถ้าจูรินะซังอยู่ข้างๆล่ะก็คงจะใช้ SKE48
มาอธิบายทั้งหมดแน่ๆ
จูรินะ: อื้ม ฉันจะอธิบายให้ฟังล่ะ
- ถ้ามวยปล้ำสามารถเป็นจุดเปลี่ยนของเรียวฮะซังได้ล่ะก็...เพื่อสร้างจุดเปลี่ยนให้คุณ
เหมือนที่เคยจัดกระโดดบันจี้จัมป์ใน “100% SKE48” ให้นั่นแหละครับ
เรียวฮะ: ขอบคุณค่ะ... (หัวเราะ)
- ถ้ามวยปล้ำไม่สามารถเป็นจุดเปลี่ยนได้
งั้นคราวหน้าก็คงต้องเชิญมากระโดดบันจี้จัมป์ 100 เมตรล่ะมั้ง?
เรียวฮะ: เอ๋!!
จูรินะ: ไม่ก็ไปปล่อยเกาะร้าง
- เป็น survivor (หัวเราะ)
เรียวฮะ: เอ๋!!!
จูรินะ: แต่ฉันคิดว่าไปดูมวยปล้ำก็ไม่เลวนะ อย่าง ชูริ (ทาคายานางิ อากาเนะ)
กับคุมะจัง (คุมาซากิ ฮารุกะ) ก็บอกว่าอยากไปดู เพราะงั้นไปด้วยกันนี่แหละ
ตั้งเป็นยูนิต “JURINA JAPAN” (หัวเราะ)
*T/N: เหมือนยูนิตมวยปล้ำที่ชื่อ Taguchi JAPAN*
- จะก่อตั้งเมื่อไหร่ครับ (หัวเราะ)
จูรินะ: อีกอย่าง อาจจะได้เรียนรู้การพรีเซนต์ตัวเองจากมวยปล้ำด้วย อย่างเช่น
สีหน้าในระหว่างการแข่ง
- ระหว่างการถ่ายภาพเมื่อกี้ เราสงสัยอะไรบางอย่าง
คือทั้งๆที่โดนจูรินะซังเฮดล็อกจากด้านหลัง แต่เรียวฮะซังกลับไม่แสดงรีแอคชั่นเลย
(หัวเราะ)
จูรินะ: เวลาแบบนั้นต้องแสดงออกไปให้เต็มที่สิ!
เรียวฮะ: ค่ะ!
- ถ้าไม่ทำท่าเจ็บออกไป ก็ไม่มีทางสื่อไปถึงคนดูได้นะ
อย่างเช่นแกล้งแสดงสีหน้าเจ็บปวด ทำขาดิ้นๆ อะไรแบบนี้
เรียวฮะ: งั้นเหรอคะ
จูรินะ: โถ่ ขนาดฉันแสดงให้ดูแล้วนะเนี่ย (หัวเราะ)
วิถีของมัตสึอิ จูรินะ
- วันที่ 3 เดือน 6 เรียวฮะซังได้ไปออกรายการ “SKE48 ZERO POSITION ถกประเด็นร้อน
90 นาทีก่อนงานเลือกตั้ง” ด้วย ในประเด็น “คนที่ไม่อยากยอมแพ้ให้” คุณตอบว่า
“จูรินะซัง” นี่ ใช่มั้ยครับ
เรียวฮะ: ใช่ค่ะ
- แต่ตอนนั้นกลับถูกอุโนะซังวิจารณ์ว่า “ข้อนี้ควรจะตอบว่าโกโต้
ราระซังหรือไม่ก็โอบาตะ ยูนะซังไม่ใช่เหรอ?” ตอนนั้นความคิดจริงๆที่อยู่ในใจคือ?
เรียวฮะ: คิดว่า “อ่า ถูกจับได้ซะแล้ว”
จูรินะ: เอ๋ ทำไมอ่ะ?
เรียวฮะ: ฉันพยายามหนีค่ะ ไม่สิ
ที่ว่าไม่อยากยอมแพ้ให้จูรินะซังเป็นเรื่องจริงค่ะ
แต่ว่าถ้าพูดสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจจริงๆ ไม่ว่ายังไงคนที่จับตามองก็....
จูรินะ: งี้นี่เอง ฉันยังไม่ได้ดูเลย
- เรื่องที่ถกกันนี่อยากให้จูรินะซังได้ดูนะครับ
จูรินะ: ได้ยินว่าเรียวฮะกับนาโอะจังร้องไห้กันหมดเลย
- โมเม้นต์นั้นอาจจะโหดร้ายกับเรียวฮะซังมากๆก็ได้
แต่ว่าบางทีทางนั้นคงอยากจะส่งสารเพื่อให้เห็นประเด็นน่ะครับ
จูรินะ: นั่นสินะ ฉันเองก็คงจะยึดทัศนคตินั้นไว้เหมือนกัน เวลาที่ตัวเองพูดออกไป
ก็จะคิดเหมือนกันว่า “ในเวลาแบบนี้ถ้าฉันพูดไป จะเป็นยังไง” ต้องบอกว่า
ฉันคิดเรื่องพวกนี้มากๆเลย
- สมกับเป็นจูรินะซัง! คิดถึงขั้นนี้เลย
เป็นตั้งแต่ได้พบกับมวยปล้ำหรือเปล่าครับ?
จูรินะ: แม้จะอยากวิจารณ์ได้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว
แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงค่ะ แต่ว่าพอได้มาดูมวยปล้ำแล้ว ก็เริ่มเข้าใจว่า “ทากุจิ
ริวสุเกะสร้างสีสันได้เก่งจริงๆ” หรือไม่ก็ “ทานาฮาชิกำลังพรีเซนต์ตัวเองสุดชีวิตเลย”
- ได้ดู “World Pro Wrestling” เมื่อไม่กี่วันก่อนมั้ยครับ?
จูรินะ: ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ
- ทานาฮาชิพูดว่า “ไม่ใช่ว่าไนโต้ไม่มีทางเป็นทานาฮาชิได้
แต่จะไม่เป็นทานาฮาชิต่างหาก ใช่มั้ย? เพราะวิถีของทานาฮาชิ ฮิโรชิน่ะ
มันลำบากกว่าแกเป็นพันเท่า”
จูรินะ: ว้าว เท่ชะมัด!
- เรียวฮะซัง วิถีของมัตสึอิ จูรินะดูลำบากมากเลยนะครับ
เรียวฮะ: ฉันก็คิดว่าเป็นแบบนั้นค่ะ...
- แต่ว่า คุณกำลังเผชิญหน้าท้าทายกับคนๆนี้ จูรินะซัง วิถีของมัตสึอิ
จูรินะลำบากมากเลยใช่มั้ยครับ?
จูรินะ: ไม่นะคะ กลับไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลย
- สุดยอด (หัวเราะ) มัตสึอิ จูรินะกับทานาฮาชิ ฮิโรชิเหมือนกันเป๊ะเลย!
เรียวฮะ: ???
จูรินะ: ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
- เรียวฮะซังอึ้งไปแล้ว (หัวเราะ)
แต่ว่าจากนี้อีกครึ่งปีก็คงเข้าใจครับ!
* น่าเสียดายที่เวลาของคิตากาว่า เรียวฮะหมดแล้ว
แต่ว่าเนื่องจากมัตสึอิ จูรินะยังมีเวลาอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ
ดังนั้นทางเราจึงขอต่อเวลาแมตช์นี้ เมื่อจูรินะโอเคกับข้อเสนอ พวกเราจึงตัดสินใจสัมภาษณ์เกี่ยวกับเพลงใหม่
เสียงระฆังต่อเวลาเริ่ม!
- จูรินะ! ซิงเกิ้ลคราวนี้เป็นแบบไหนครับ?
จูรินะ: พวกเราไปถ่าย MV ที่เกาะนึงในไต้หวันชื่อว่า Penghu ค่ะ
เป็นครั้งแรกที่ศิลปินญี่ปุ่นมาถ่ายทำที่นี่เลย!
- ดูยิ่งใหญ่จัง!
จูรินะ: แล้วก็โอบาตะ ยูนะเป็นเซนเตอร์ครั้งแรก คนที่ติดเซมบัตสึครั้งแรกก็มี
3 คน (โอบาตะ ยูนะ, คินาโน่ รุกะ, ยาฮากิ ยูกินะ) มี “ครั้งแรก” อยู่เต็มไปหมด
สำหรับส่วนตัวฉันแล้ว คิดว่าเรื่อง “ครั้งแรก” ก็คือ ชุดบิกินี่มันเล็กชะมัด! เป็น MV ที่เปิดเผยมากสุดเท่าที่เคยถ่ายมาเลย
- ...อึ้งไปเลย โทษทีครับ (หัวเราะ)
จูรินะ: แต่สำหรับฉัน คนที่ “แมงโก้อย่างไม่น่าเชื่อ” คือ เอโกะจัง (เอโกะ
ยูนะ) ล่ะ!
- สุกเต็มที่เลยสินะ...!
จูรินะ: ส่วนสุดะ (อาคาริ) จังน่ะ “ก้นมะม่วง”
- แม้จะไม่ค่อยเข้าใจว่าคุณพูดอะไร แต่ก็ขอบคุณนะครับ! จะว่าไป
ธีมของ MV ครั้งนี้คือ “ร่วมแรงร่วมใจ”
จูรินะ: ก่อนจะถ่ายทำ MV พวกเราถูกบรีฟมาว่า
“เนื้อหาอะไรยังไม่ได้ตกลงเลย ดังนั้นต้องตกลงกันเองนะ”
สุดท้ายคือพวกเรามาช่วยกันดูรูปวิวสถานที่ต่างๆ แล้วทุกคนก็คุยกัน ในตอนนั้นน่ะ
ถ้าไม่ “ร่วมแรงร่วมใจ” ล่ะก็เราจะไม่มีทางตกลงกันได้เลย เราใช้ความคิดที่ทุกคนเสนอมาเป็นฐาน
แล้วก็ร่วมกันสร้าง MV นี้ขึ้นมา
- โอ้ เป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ! มองในมุมของ AVEX ซัง
ยังไงนี่ก็เป็นผลที่พิจารณามาดีแล้วแน่ๆ
จูรินะ: นั่นสินะคะ ชูริรับหน้าที่เป็นตากล้อง จุดนี้ก็ต้องเป็นความ
“ร่วมแรงร่วมใจ” ด้วยแน่ๆ เพราะครั้งนี้พวกเราทำขึ้นมาเอง รอชมกันด้วยนะคะ!
- งานต่อไปเราก็จะตั้งตารอดูคุณได้คาดเข็มขัดแชมป์นะครับ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น