วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2560

(91) บทสัมภาษณ์ จูรินะ x เรียวฮะ "เงื่อนไขของการเป็นแชมเปี้ยน" BUBKA Aug'17



ในที่สุดเซนเตอร์ก็เปลี่ยนมือ! SKE48 จะเกิดอะไรขึ้นนะ

"เงื่อนไขของการเป็นแชมเปี้ยน"

ภูเขาสั่นคลอน เมื่อคนที่ถูกเลือกเป็นเซนเตอร์แทนที่มัตสึอิ จูรินะผู้เป็นไพ่ตายตลอดกาล กลับไม่ใช่คิตากาว่า เรียวฮะผู้แบกรับความคาดหวังของรุ่นต่อไปมานาน  SKEในตอนนี้กำลังอยู่ในคลื่นลูกใหญ่ แล้วทั้งสองคนคิดยังไงกันแน่นะ



ข้อความ LINE ที่คุยกับรุ่นน้อง



- วันนี้เป็นวันสัมภาษณ์เกี่ยวกับซิงเกิ้ลใหม่ของ SKE Igai ni Mango ดังนั้นเราคิดว่าในอนาคตคงจะได้พูดคุยเกี่ยวกับเพลงใหม่เรื่อยๆ...

จูรินะ: แต่วันนี้ไม่ได้จะคุยเรื่องนี้ ใช่มั้ยคะ?

- ก็ตามนั้นแหละครับ (หัวเราะ) คำถามแบบว่า “เป็นเพลงแบบไหน?” หรือ “ท่าเต้นที่น่าสนใจคือ?” เราคิดว่าคนอ่านหนังสือเราไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ ดังนั้นเราเลยอยากจะคุยในมุมที่ต่างออกไป ไม่ว่ายังไง เราก็อยากคุยเกี่ยวกับซิงเกิ้ลใหม่นี่ เรื่องที่ใหญ่ที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องที่โอบาตะ ยูนะซังได้เป็นเซนเตอร์ครั้งแรก

จูรินะ: SKE48 ไม่มีทางทำลายสิ่งที่สร้างมาจนถึงวันนี้หรอกค่ะ แต่ฉันคิดว่าการปกป้องสิ่งสำคัญไปพร้อมกับสร้างกระแสลูกใหม่เป็นเรื่องจำเป็น เพราะงั้นฉันเลยคิดว่าคงจะ “ถึงเวลาแล้ว” ล่ะ

- ภาษามวยปล้ำออกมาเร็วเกินไปแล้ว! นี่มาจากคำพูดของฮาชิโมโต้ ชินยะ(นักมวยปล้ำ) ใช่มั้ยครับ “ไม่มีการทำลายก็ไม่มีการสร้าง”

จูรินะ: ค่ะ อีกอย่าง ฉันก็ป้องกันตำแหน่งเซนเตอร์ไว้ไม่ได้

- เรื่องนี้เมื่อเดือน 12 ปี 2014 ตอนเพลง 12 gatsu no Kangaroo ที่คิตากาว่าซังกับมิยามาเอะ อามิซังเป็นเซนเตอร์คู่ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

จูรินะ: นอกจากตอนนั้นก็ยังมี Mae no meri ของ (มัตสึอิ) เรนะจังด้วย แต่ว่าเพราะเป็นซิงเกิ้ลจบการศึกษา ดังนั้นถ้าดูแล้วก็คงตั้งแต่ 12 gatsu no Kangaroo นั่นแหละนะ ช่วงนี้เรียวฮะ (ฟุรุฮาตะ) นาโอะจังแล้วก็คุมะจัง (คุมาซากิ ฮารุกะ) ก็พูดกับฉันเหมือนกันหมดเลยว่า “จะชิงตำแหน่งเซนเตอร์จากจูรินะซัง” พอถูกบอกอย่างนี้ จะไม่ป้องกันตำแหน่งก็ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะคะ

- ก็ตัวเองเป็นเสมือนแชมเปี้ยนนี่นะ

จูรินะ: ค่ะ เพราะงั้น ก็เลยรู้สึกเจ็บใจนิดหน่อย แต่ฉันก็อยากจะเห็น SKE48 รูปแบบใหม่ต่อจากนี้มากๆเลย

- พูดอีกอย่างก็คือ ยินดีที่โอบาตะซังเป็นเซนเตอร์มากๆเลยใช่มั้ย?

จูรินะ: ใช่ค่ะ! ฉันว่าที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะว่ามันคือตอนนี้ไง

- ถ้างั้น ทางนี้ล่ะครับ เรียวฮะซังรับมือยังไงบ้าง?

เรียวฮะ: รับมืออะไรคะ?

จูรินะ: แป่ววว!

- ตั้งใจฟังหน่อยสิครับ! เราจะถามว่า ตอนที่ได้ยินว่าโอบาตะซังเป็นเซนเตอร์ รู้สึกยังไงครับ?

เรียวฮะ: ตอนที่รู้เรื่องเหรอคะ?

จูรินะ: ใช่ พูดมาตามตรงเลยนะ

เรียวฮะ: “อ่า (ฉัน) ไม่ได้เป็นแฮะ” แบบนี้ค่ะ ฉันคิดว่าฉันในตอนนี้ยังเป็นไม่ได้หรอกค่ะ

- เรื่องนี้ คิดหนักเลยรึเปล่า?

เรียวฮะ: ค่ะ ก่อนหน้านั้นไม่นานก็มีประกาศผลด่วนเลือกตั้งAKB48 ตอนนั้นน่ะบ่งบอกอะไรหลายๆอย่าง ที่จริงแล้วในผลด่วน ชื่อยูนานะ (โอบาตะ) อยู่สูงกว่าเรียวฮะอีก

- ในผลด่วน เรียวฮะซังอันดับ 67 โอบาตะซังอันดับ 42 ตรงนี้ไม่ว่ายังไงก็คงมีเปรียบเทียบแน่

เรียวฮะ: มีค่ะ ฉันชอบเปรียบเทียบกับคนอื่น แม้ว่ามันจะไม่ค่อยดีก็ตาม

จูรินะ: แต่ว่า เรียวฮะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกแบบนั้นออกมานะ เรื่องนี้ถ้าเป็นมวยปล้ำล่ะก็...

- จูรินะซัง โยงเข้าเรื่องมวยปล้ำไวเกินไปแล้ว! โธ่ เราอุตส่าห์กะว่าจะโยงเข้าเรื่องนี้ตอนสุดท้าย (หัวเราะ)

จูรินะ: ไม่ว่าจะในมุมมวยปล้ำ ในมุมไอดอล ในมุมของแฟนๆ...

- มุมมองปนกันมั่วจนแยกไม่ออกว่าอันไหนเป็นอันไหนแล้วเหรอครับ?

จูรินะ: ฮุๆๆ ยังไงแฟนๆก็สนับสนุนพวกเราอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ เวลาได้ยืนในจุดที่เป็นคนสนับสนุน พอได้ยินอีกฝ่ายบอกว่า “เจ็บใจ” ก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มร้อนแรงขึ้นมา แม้ฉันจะไม่ชอบแสดงออกว่าเจ็บใจออกไปเหมือนกัน แต่แฟนๆน่ะบอกฉันว่า “อยากให้พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆนะ” แล้วพอฉันเริ่มพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาตรงๆ ก็รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดแฟนๆมากขึ้น ทำให้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันด้วย เพราะงั้นตอนนี้ขนาดฉันไม่ได้พูดอะไร (แฟนๆ) ก็ยังเข้าใจความรู้สึกฉันเลยล่ะ ดังนั้นแฟนๆเรียวฮะก็คงอยากให้เรียวฮะพูดตรงๆบ้างเหมือนกัน

- ในบล็อกก็มีเขียนแสดงความรู้สึกแบบนั้นอยู่นี่ ใช่มั้ยครับ

เรียวฮะ: ค่ะ เมื่อวานใน SHOWROOM ฉันก็พูดเรื่องที่คิดออกมาหมดเลย

จูรินะ: งั้นเหรอ! พูดอะไรบ้างล่ะ?

เรียวฮะ: ความเจ็บใจตอนประกาศผลด่วนค่ะ ตัวฉันเองแม้ว่าที่ผ่านมาจะได้รับโอกาสค่อนข้างเยอะ แต่กลับไม่ค่อยมีผลงานที่เด่นชัด อะไรประมาณนี้ แต่ว่าฉันเองก็ไม่ชอบที่ตัวเองไม่อาจพูดเรื่องนี้ไปตรงๆได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันคงได้แต่รับสภาพ คิดแต่ว่า “ยังไงคนอย่างฉันก็คง...” แต่ไม่นานมานี้ฉันไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยน่ะค่ะ

- ไม่อยู่กับร่องกับรอยเหรอ?

เรียวฮะ: วัยต่อต้าน? ไม่อยู่ในร่องในรอย? ไม่เชื่อฟัง? มันเรียกว่าอะไรนะคะ?

จูรินะ: หมายถึงทั้งที่เป็นลีดเดอร์น่ะเหรอ? แบบนี้จะทำให้คนอื่นลำบากใจนะ ลีดเดอร์!

เรียวฮะ: มีบางอย่างที่แย่ลงด้วยค่ะ ตำแหน่งยืนกับความนิยมน่ะ (ไม่ไปในทางเดียวกัน) ฉันมาสุดได้แค่นี้รึเปล่านะ? คิดในด้านลบมากๆ แม้ว่าฉันจะเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ช่วงหลังนี่ฉันคิดแบบนั้นเยอะมากเลยค่ะ จะบอกว่าช่วงนี้ ก็ช่วงหนี่งปีที่ผ่านมานี่แหละค่ะ ทั้งหงุดหงิด ทั้งท้อใจ แบบนี้มันเรียกว่าอะไรคะ?

จูรินะ: ฉันก็เป็น! (หัวเราะ)

เรียวฮะ: ยอมแพ้?

- ความเป็นจริงไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้สินะ

เรียวฮะ: ความรู้สึกร้อนใจนี่ ไม่รู้จะทำยังไงดี

- คุณคิดว่าอยากให้ตัวเองเป็นแบบไหน มีวาดภาพไว้มั้ยครับ?

เรียวฮะ: อื้ม...

- ตอนที่หนักใจไปปรึกษาใครครับ?

เรียวฮะ: ไม่ได้ปรึกษาใครค่ะ...ได้แต่เก็บไว้ในใจ

- คนที่น่าไปปรึกษาด้วยก็อยู่ข้างๆนี่ไม่ใช่เหรอครับ?

เรียวฮะ: อย่างนั้นฉันคงรู้สึกผิดน่ะค่ะ ถ้าคนอย่างฉันไปทำให้จูรินะซังลำบากใจล่ะก็

จูรินะ: ไม่ลำบากใจซะหน่อย!

- จูรินะซัง เรียวฮะซังไม่ยอมเดินไปข้างหน้าแล้วครับ

จูรินะ: แต่ว่า พวกเรามี LINE กลุ่ม Love Crescendo อยู่ ถ้าเข้าไปคุยในนั้นทุกคนก็จะมาตอบ เพราะคิดอะไรหลายๆอย่างอยู่  ฉันเลยคิดว่าฉันคงต้องเป็นคนถามเท่านั้น ปรากฎว่าความเห็นของทุกคนที่ออกมามันร้อนแรงมาก แบบว่า “ฉันอยากเป็นคนที่สามารถนำ SKE48 ไปได้ค่ะ” ไม่ก็ “เพราะรัก SKE48 ฉันก็อยากจะเป็นกำลังหลักให้ได้มากกว่านี้ค่ะ” ได้ยินแล้วน่าดีใจจริงๆ



คุณสมบัติของผู้ได้คาดเข็มขัดแชมป์



- ปลายเดือน 2 เมื่อยากาตะ มิกิซังจบการศึกษา เรียวฮะซังก็รับตำแหน่งลีดเดอร์ทีม S คนใหม่ มีแนวคิดที่จะให้เปลี่ยนแปลงอะไร หรือตั้งใจจะสร้างอะไรใหม่ๆมั้ยครับ?

เรียวฮะ: ฉันคิดว่ายังไงก็ต้องทำค่ะ แต่ว่าตอนช่วงที่เป็นลีดเดอร์ใหม่ๆ เป็นช่วงที่ฉันไม่อยู่กับร่องกับรอยสุดๆพอดี ดังนั้นเลยรู้สึกว่าที่ได้รับตำแหน่งนี้ เหมือนถูกบอกว่า “ลองสู้อีกซักตั้งเถอะ” ยังไงยังงั้น

จูรินะ: ใช่แล้ว เธอได้รับความคาดหวังมากเลยล่ะ

เรียวฮะ: ฉันคิดว่าได้รับโอกาสมาอีกแล้ว นี่เป็นโอกาสที่ทำให้ฉันอยากย้ำอีกครั้งว่าจะต้องสู้ต่อไป

- จูรินะซัง สเตจทีม S ช่วงนี้ รู้สึกยังไงบ้างมั้ยครับ?

จูรินะ: ไม่ว่าใครเป็นลีดเดอร์ก็จะต้องเป็นคนสรุปภาพรวมของการแสดงแต่ละรอบ ดังนั้นฉันคิดว่าเธอทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างดี ฉันเองตอนอยู่หลังเวทีก็เคยเห็นเหมือนเธอกำลังคิดอะไรซักอย่างอยู่แบบสุดชีวิต เรื่องพวกนี้น่ะเป็นสิ่งที่ในระหว่างทำๆไปก็จะฝึกได้เอง เหมือนอย่างที่สัมภาษณ์กันวันนี้ เทียบกับเมื่อก่อนก็พูดเก่งขึ้นตั้งเยอะ

- เรียวฮะซังในฐานะที่เป็นทีมลีดเดอร์ มีเรื่องไหนที่ต้องระวังมั่งมั้ยครับ?

เรียวฮะ: ฉันมีความสุขมากกับมิยาซาว่าทีม S และยากาตะทีม S ค่ะ รู้สึกว่า “ได้อยู่ทีม S นี่ดีจริงๆ” อยู่บ่อยๆ ดังนั้นพอตอนนี้เป็นคิตากาว่าทีม S แล้ว ยังไงก็ไม่อยากให้ทุกคนรู้สึกกังวล แต่ฉันคิดว่าฉันยังมีเรื่องที่ทำให้ทุกคนกังวลอยู่

จูรินะ: ลีดเดอร์น่ะ มีอยู่สองแบบนะ แบบแรกคือแบบที่พึ่งพาได้ อีกแบบเป็นแบบที่ทำให้คนอื่นอยากพยายามไปกับเขา อยากจะสนับสนุนเขา ทีม S ทุกคนอยากพยายามไปพร้อมๆกับเรียวฮะ ดังนั้นฉันคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาหรอก จริงสิ เมื่อไม่กี่วันก่อนในสเตจจบการศึกษาของไมไม (ทาเคอุจิ ไม) ที่ก่อนเอ็นจิ้น เรียวฮะตะโกนบอกว่า “พอฉันพูดว่า “ไมซัง” ให้ทุกคนตะโกนว่า “รักที่สุด!” นะ” ฉันว่ามันน่ารักมากเลยล่ะ (หัวเราะ)

- เรียวฮะตันรับหน้าที่ตอนเอ็นจิ้นเหรอ! ถึงมันจะเป็นหน้าที่ของลีดเดอร์อยู่แล้วก็เถอะ

จูรินะ: รู้สึกว่าเป็นเรียวฮะมากๆเลยล่ะ เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยตะโกนแบบนี้ ฉันเลยรู้สึกว่ามันน่ารักมาก จากนั้นฉันก็ตั้งหน้าตั้งตารอว่าตอนสเตจวันเกิดฉันจะพูดอะไรแบบนี้มั้ยน้า ปรากฎว่าไม่มี (หัวเราะ)

เรียวฮะ: เอ๋!!

จูรินะ: ดูเหมือนว่าจะทำเฉพาะสเตจจบการศึกษาเพราะสเตจวันเกิดน่ะมีจัดอยู่เรื่อยๆ ไมไมเองพอได้ยินแบบนั้นก็ปล่อยโฮออกมาเลย เรื่องพวกนี้สุดยอดไปเลยนะ

- พวกเราอยากฟังเรื่องแบบนี้แหละครับ ในฐานะลีดเดอร์ เรียวฮะซังคุยกับเมมเบอร์ยังไงบ้างครับ แบบคล้ายๆกับเรื่องนี้น่ะ

เรียวฮะ: ฉันเคยอยากบอกว่า อยากให้แสดงความรู้สึกสนุกออกมาค่ะ

จูรินะ: อย่างเช่นพูดเรื่องเป้าหมายรึเปล่า? ประมาณว่า “วันนี้คนที่มาดูทุกคนจะต้อง...?” “สบตาด้วย!

เรียวฮะ: อ่า นั่นสิคะ แม้เดิมทีฉันจะเป็นพวกชอบคิดมากอยู่แล้วแต่หลังจากได้เป็นลีดเดอร์แล้วก็มีเรื่องให้ต้องคิดมากขึ้นอีก

- เราก็คิดอย่างนั้นครับ (หัวเราะ) วันนี้พวกเราอยากให้เรียวฮะซังปรึกษาเรื่องหนักใจกับจูรินะซัง ก็เลยจัดสัมภาษณ์นี้ขึ้น ในนิตยสารเดือน 4 จูรินะซังก็ได้คุยกับทานาฮาชิ ฮิโรชิซัง (นักมวยปล้ำ) ไม่ใช่เหรอครับ?

จูรินะ: ฮุๆๆ

- พวกเราอยากให้วันนี้จูรินะซังรับบทเป็นทานาฮาชิน่ะ

จูรินะ: ฮ่าๆๆๆๆๆ

- งั้น จูรินะได้ฟังเรื่องเมื่อครู่นี้แล้ว จะตอบว่ายังไงครับ?

จูรินะ: ในมุมองของ SKE48 คนนึง ฉันรู้สึกว่าเป็นสถานการณ์ที่ดีมาก

- นั่นสินะ เพราะตอนนี้ก็เป็นวงที่มีผู้ท้าชิงโผล่ขึ้นมาเยอะมาก เป็นสถานการณ์ที่ร้อนแรงเลยทีเดียว

จูรินะ: ใช่ค่ะ! แต่ว่า ถึงเรียวฮะจะอยากได้เข็มขัดแชมป์ แต่ก็ยังไม่ได้สิทธิ์ท้าชิงนะ

- ผู้ท้าชิงต้องเป็นยังไงครับ?

จูรินะ: ก่อนอื่น ต้องมีอะไรซักอย่าง แค่อย่างเดียวก็ได้ที่จะไม่ยอมแพ้ให้ใคร ฉันคิดว่าถ้าไม่มีแบบนั้นจะไม่มีทางเป็นแชมป์ได้

- เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นในตัวเองด้วย

จูรินะ: ใช่ค่ะ! ตอนที่ดูมวยปล้ำ ก็จะเห็นว่าไม่ว่านักกีฬาคนไหนก็จะมีความเชื่อมั่นในตัวเองทั้งนั้น อกผายไหล่ผึ่ง แค่ภายนอกก็ส่งออร่าออกมาแล้ว มันคือการแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีความมั่นใจ ถ้าเป็นเมมเบอร์ล่ะก็ ซายาเน่ (ยามาโมโตะ ซายากะ) เป็นประเภทนั้นแหละ ฉันก็เป็นแบบนั้น แล้วก็คนที่จบการศึกษาไปแล้วอย่างโอชิม่า ยูโกะซังก็ด้วย แต่มาเอดะ (อัตสึโกะ) ซังกับพารูรุ (ชิมาซากิ ฮารุกะ) ซังน่ะเป็นประเภทที่ไม่ว่าจะถูกใครว่าอะไรก็ไม่ใส่ใจ ไม่เหมือนกับฉันและซายาเน่

เรียวฮะ: อื้มๆ...

จูรินะ: แม้บางทีอาจจะถูกคนพูดแรงๆใส่ แต่ฉันคิดว่าเพราะมีจิตใจที่แข็งแกร่งแบบนั้นถึงเป็นเซนเตอร์ได้ ถ้างั้น เรียวฮะล่ะเป็นยังไง ถ้าบอกว่าบางครั้งก็ใส่ใจคนอื่นเกินไป บางครั้งก็อ่อนแอ แล้วจะต้องมาแก้นิสัยพวกนี้ มันไม่ยากไปหน่อยเหรอ? ฉันเองก็เป็นคนขี้กังวลเหมือนกัน ก็เลยเข้าใจ ในเมื่อไม่สามารถเปลี่ยนนิสัยได้ งั้นแค่มีความเชื่อมั่นก็พอแล้ว ฉันคิดว่าการค้นพบ “เรื่องนี้แหละที่ฉันเก่งกว่าใครใน 48 กรุ๊ป!” เป็นทางลัดสู่แชมเปี้ยน

- งั้นมันคืออะไรล่ะ?

เรียวฮะ: เรื่องที่ทำให้เราเป็นแชมป์ได้งั้นเหรอ...เห...?

จูรินะ: อะไรก็ได้ ถ้าเป็น (โกโต้) ราระก็คงเป็นภาษาอังกฤษล่ะ

เรียวฮะ: …..

จูรินะ: ความถนัดก็ได้ หรือด้านจิตใจก็ได้นะ

เรียวฮะ: ….

- ดูเหมือนจะนึกไม่ออกนะครับ (หัวเราะ) ในมุมมองของจูรินะซัง จุดแข็งของเรียวฮะคืออะไรครับ?

จูรินะ: เรียวฮะน่ะ...พละกำลังเหลือล้น!

- พละกำลัง! เป็นมุมมองที่น่าแปลกใจมากทีเดียว

จูรินะ: มีกล้ามเยอะเลยแหละ

- กล้ามจากการฝึกเทนนิสน่ากลัวจริงๆ (ในงานทูชอตหลังจากการสัมภาษณ์นี้ มีการวัดพลังบีบมือ เธอทำได้ถึง 39.5kg สูงสุดในประวัติศาสตร์ไอดอล!)

จูรินะ: มัดกล้ามนั่นสุดยอดเลย!

เรียวฮะ: ใช่ค่ะ

จูรินะ: งั้นถ้าเป็นสายพละกำลังล่ะ? เธอทั้งพลังเยอะ แล้วก็ทนแดดด้วย

- ไอดอลทนแดด!

เรียวฮะ: เพราะชมรมเทนนิสสมัยมัธยมเข้มงวดมาก ก็เลยไม่เป็นไรค่ะ

- แม้แต่เต้นก็ไม่เหนื่อยเหรอ?

เรียวฮะ: เหนื่อยสิคะ แต่ฉันชอบพวกการแข่งมาราธอนที่สุดค่ะ เพระงั้นฉันก็เลยจะไม่ยอมแพ้ใคร การวิ่งระยะไกลเป็นการต่อสู้กับตัวเอง ยอมแพ้ปุ๊บก็เท่ากับจบใช่มั้ยล่ะคะ? ฉันชอบเอาชนะจุดอ่อนของตัวเองน่ะค่ะ

จูรินะ: ใน SHOWROOM ก็เต้น endless Oki Doki ดูสิ?

เรียวฮะ: ได้แน่นอนค่ะ

- ดีไม่ดีอาจจะกลายเป็นตำนานเลยก็ได้นะครับ ทุกคนคงบอกว่า “เรียวฮะสุดยอด!

จูรินะ: แบบนี้แหละ ทำเรื่องที่คนอื่นทำไม่ได้

เรียวฮะ: คราวหน้าจะลองดูนะคะ

- นี่อาจโยงไปถึงความเชื่อมั่นในตัวเองด้วยนะ

จูรินะ: ใช่! เพราะ “มีแค่เรื่องนี้ที่จะไม่ยอมแพ้ใคร” สิ่งนี้แหละที่จะกลายเป็นความเชื่อมั่น



ใช้มวยปล้ำเป็นบทเรียน



- ที่คุยกันเมื่อกี้เป็นความเห็นในมุมของเมมเบอร์หมดเลย อยากให้จูรินะซังผู้ได้พบมวยปล้ำเปลี่ยนชีวิตช่วยอธิบายแก่นแท้ของมวยปล้ำให้เรียวฮะซังหน่อยครับ

จูรินะ: อ่ะ หมายถึงว่าให้ไปดูมวยปล้ำด้วยกันรึเปล่าคะ? ได้เลย!

- เรียวฮะซังสนใจมั้ยครับ?

เรียวฮะ: แม้ว่าบางทีจะเคยดูในทีวีบ้าง แต่พอดูแล้วรู้สึกเจ็บ ทนดูไม่ได้ค่ะ...

- จูรินะซังเมื่อครึ่งปีก่อนก็เป็นอย่างนี้นะครับ

เรียวฮะ: ถึงแม้คุณพ่อจะดูบ้าง แต่ฉันกลัวความเจ็บก็เลยดูไม่ลง

จูรินะ: หมายถึงพวกเสียงร้องอะไรแบบนี้หรอ?

เรียวฮะ: ใช่ค่ะ

จูรินะ: นั่นน่ะสุดยอดแล้ว!

เรียวฮะ: เอ๋!!

จูรินะ: ประมาณว่า “ได้ส่งเสียงที่เจ๋งๆออกไปแล้ว” แบบนี้อ่ะ

- วิธีดูอย่างนี้ก็มีนะครับ เหมือนเป็นบทเรียนที่ให้เรียนรู้ในมุมมองของสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง แบบนี้น่ะ

จูรินะ: ใช่แล้ว เหมือนไอดอลเลยล่ะ

เรียวฮะ: งั้นเหรอคะ? ไว้จะลองไปดูค่ะ

- เป็นคำใบ้ “เพื่อให้เรียวฮะซังมาเป็นผู้ท้าชิงอีกครั้ง” ที่ซ่อนอยู่น่ะครับ ถ้ามองในมุม Shin Nihon Pro wrestling ล่ะก็ จะต้องมีนักกีฬาที่มีสถานการณ์คล้ายกับเรียวฮะซังอยู่แน่ๆ

จูรินะ: ไนโต้ (เท็ตสึยะ) ช่วงก่อนก็อาจจะเป็นอย่างนี้ก็ได้นะคะ

- ถึงแม้จะมีช่วงที่หยุดอยู่กับที่ก็ตาม

จูรินะ: แต่ตอนนี้เป็นตัวร้าย เป็นคาแรคเตอร์ที่ดังมากเลย

- เพียงแค่มีโอกาสครั้งเดียวก็เอาคืนได้แล้ว

เรียวฮะเก่งจัง!

- เพราะว่าถ้า “ดูเหมือนจะเจ็บ” แล้วหยุด ก็จะมองไม่เห็นสิ่งอื่น ถ้าได้ไปที่สนามกับจูรินะเซนเซย์ล่ะก็ คำใบ้นั้นจะต้องค่อยๆโผล่มาแน่

จูรินะ: ใช่! ฉันก็เหมือนกันผ่านไปครึ่งปีก็ได้เข้าใจอะไรๆเยอะเลย

เรียวฮะ: มวยปล้ำสุดยอดเลย!

- แม้ว่าจูรินะซังจะซึมซับเข้าไปเกินปกติก็ตาม

จูรินะ: ฉันได้เข้าใจความรู้สึกของคนเชียร์อย่างถ่องแท้ด้วยนะคะ อย่างเช่น “เพราะนักมวยปล้ำพูดแบบนี้กับพวกเรา ก็เลยอยากจะสนับสนุน” หรือไม่ก็ “ถ้าพูดแบบนี้อีกนิดนึงจะร้องเฮแล้วนะ” อะไรแบบนั้น เราจะรู้สึกอยากต่อสู้ไปกับนักมวยปล้ำน่ะ

เรียวฮะ: เอ๋ งั้นเหรอคะ

- เผชิญหน้ากับผู้ท้าชิง แสดงออกไปว่า “ฉันจะท้าทายแก!” เรื่องแบบนี้ SKE48 ก็อาจจะมีเหมือนกัน ถ้าจูรินะซังอยู่ข้างๆล่ะก็คงจะใช้ SKE48 มาอธิบายทั้งหมดแน่ๆ 

จูรินะ: อื้ม ฉันจะอธิบายให้ฟังล่ะ

- ถ้ามวยปล้ำสามารถเป็นจุดเปลี่ยนของเรียวฮะซังได้ล่ะก็...เพื่อสร้างจุดเปลี่ยนให้คุณ เหมือนที่เคยจัดกระโดดบันจี้จัมป์ใน “100% SKE48” ให้นั่นแหละครับ

เรียวฮะ: ขอบคุณค่ะ... (หัวเราะ)

- ถ้ามวยปล้ำไม่สามารถเป็นจุดเปลี่ยนได้ งั้นคราวหน้าก็คงต้องเชิญมากระโดดบันจี้จัมป์ 100 เมตรล่ะมั้ง?

เรียวฮะ: เอ๋!!

จูรินะ: ไม่ก็ไปปล่อยเกาะร้าง

- เป็น survivor (หัวเราะ)

เรียวฮะ: เอ๋!!!

จูรินะ: แต่ฉันคิดว่าไปดูมวยปล้ำก็ไม่เลวนะ อย่าง ชูริ (ทาคายานางิ อากาเนะ) กับคุมะจัง (คุมาซากิ ฮารุกะ) ก็บอกว่าอยากไปดู เพราะงั้นไปด้วยกันนี่แหละ ตั้งเป็นยูนิต “JURINA JAPAN” (หัวเราะ)

*T/N: เหมือนยูนิตมวยปล้ำที่ชื่อ Taguchi JAPAN*

- จะก่อตั้งเมื่อไหร่ครับ (หัวเราะ)

จูรินะ: อีกอย่าง อาจจะได้เรียนรู้การพรีเซนต์ตัวเองจากมวยปล้ำด้วย อย่างเช่น สีหน้าในระหว่างการแข่ง

- ระหว่างการถ่ายภาพเมื่อกี้ เราสงสัยอะไรบางอย่าง คือทั้งๆที่โดนจูรินะซังเฮดล็อกจากด้านหลัง แต่เรียวฮะซังกลับไม่แสดงรีแอคชั่นเลย (หัวเราะ)

จูรินะ: เวลาแบบนั้นต้องแสดงออกไปให้เต็มที่สิ!

เรียวฮะ: ค่ะ!

- ถ้าไม่ทำท่าเจ็บออกไป ก็ไม่มีทางสื่อไปถึงคนดูได้นะ อย่างเช่นแกล้งแสดงสีหน้าเจ็บปวด ทำขาดิ้นๆ อะไรแบบนี้

เรียวฮะ: งั้นเหรอคะ

จูรินะ: โถ่ ขนาดฉันแสดงให้ดูแล้วนะเนี่ย (หัวเราะ)



วิถีของมัตสึอิ จูรินะ



- วันที่ 3 เดือน 6 เรียวฮะซังได้ไปออกรายการ “SKE48 ZERO POSITION ถกประเด็นร้อน 90 นาทีก่อนงานเลือกตั้ง” ด้วย ในประเด็น “คนที่ไม่อยากยอมแพ้ให้” คุณตอบว่า “จูรินะซัง” นี่ ใช่มั้ยครับ

เรียวฮะ: ใช่ค่ะ

- แต่ตอนนั้นกลับถูกอุโนะซังวิจารณ์ว่า “ข้อนี้ควรจะตอบว่าโกโต้ ราระซังหรือไม่ก็โอบาตะ ยูนะซังไม่ใช่เหรอ?” ตอนนั้นความคิดจริงๆที่อยู่ในใจคือ?

เรียวฮะ: คิดว่า “อ่า ถูกจับได้ซะแล้ว”

จูรินะ: เอ๋ ทำไมอ่ะ?

เรียวฮะ: ฉันพยายามหนีค่ะ ไม่สิ ที่ว่าไม่อยากยอมแพ้ให้จูรินะซังเป็นเรื่องจริงค่ะ แต่ว่าถ้าพูดสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจจริงๆ ไม่ว่ายังไงคนที่จับตามองก็....

จูรินะ: งี้นี่เอง ฉันยังไม่ได้ดูเลย

- เรื่องที่ถกกันนี่อยากให้จูรินะซังได้ดูนะครับ

จูรินะ: ได้ยินว่าเรียวฮะกับนาโอะจังร้องไห้กันหมดเลย

- โมเม้นต์นั้นอาจจะโหดร้ายกับเรียวฮะซังมากๆก็ได้ แต่ว่าบางทีทางนั้นคงอยากจะส่งสารเพื่อให้เห็นประเด็นน่ะครับ

จูรินะ: นั่นสินะ ฉันเองก็คงจะยึดทัศนคตินั้นไว้เหมือนกัน เวลาที่ตัวเองพูดออกไป ก็จะคิดเหมือนกันว่า “ในเวลาแบบนี้ถ้าฉันพูดไป จะเป็นยังไง” ต้องบอกว่า ฉันคิดเรื่องพวกนี้มากๆเลย

- สมกับเป็นจูรินะซัง! คิดถึงขั้นนี้เลย เป็นตั้งแต่ได้พบกับมวยปล้ำหรือเปล่าครับ?

จูรินะ: แม้จะอยากวิจารณ์ได้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงค่ะ แต่ว่าพอได้มาดูมวยปล้ำแล้ว ก็เริ่มเข้าใจว่า “ทากุจิ ริวสุเกะสร้างสีสันได้เก่งจริงๆ” หรือไม่ก็ “ทานาฮาชิกำลังพรีเซนต์ตัวเองสุดชีวิตเลย”

- ได้ดู “World Pro Wrestling” เมื่อไม่กี่วันก่อนมั้ยครับ?

จูรินะ: ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ

- ทานาฮาชิพูดว่า “ไม่ใช่ว่าไนโต้ไม่มีทางเป็นทานาฮาชิได้ แต่จะไม่เป็นทานาฮาชิต่างหาก ใช่มั้ย? เพราะวิถีของทานาฮาชิ ฮิโรชิน่ะ มันลำบากกว่าแกเป็นพันเท่า”

จูรินะ: ว้าว เท่ชะมัด!

- เรียวฮะซัง วิถีของมัตสึอิ จูรินะดูลำบากมากเลยนะครับ

เรียวฮะ: ฉันก็คิดว่าเป็นแบบนั้นค่ะ...

- แต่ว่า คุณกำลังเผชิญหน้าท้าทายกับคนๆนี้ จูรินะซัง วิถีของมัตสึอิ จูรินะลำบากมากเลยใช่มั้ยครับ?

จูรินะ: ไม่นะคะ กลับไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลย

- สุดยอด (หัวเราะ) มัตสึอิ จูรินะกับทานาฮาชิ ฮิโรชิเหมือนกันเป๊ะเลย!

เรียวฮะ: ???

จูรินะ: ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

- เรียวฮะซังอึ้งไปแล้ว (หัวเราะ) แต่ว่าจากนี้อีกครึ่งปีก็คงเข้าใจครับ!


* น่าเสียดายที่เวลาของคิตากาว่า เรียวฮะหมดแล้ว แต่ว่าเนื่องจากมัตสึอิ จูรินะยังมีเวลาอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นทางเราจึงขอต่อเวลาแมตช์นี้ เมื่อจูรินะโอเคกับข้อเสนอ พวกเราจึงตัดสินใจสัมภาษณ์เกี่ยวกับเพลงใหม่ เสียงระฆังต่อเวลาเริ่ม!


- จูรินะ! ซิงเกิ้ลคราวนี้เป็นแบบไหนครับ?

จูรินะ: พวกเราไปถ่าย MV ที่เกาะนึงในไต้หวันชื่อว่า Penghu ค่ะ เป็นครั้งแรกที่ศิลปินญี่ปุ่นมาถ่ายทำที่นี่เลย!

- ดูยิ่งใหญ่จัง!

จูรินะ: แล้วก็โอบาตะ ยูนะเป็นเซนเตอร์ครั้งแรก คนที่ติดเซมบัตสึครั้งแรกก็มี 3 คน (โอบาตะ ยูนะ, คินาโน่ รุกะ, ยาฮากิ ยูกินะ) มี “ครั้งแรก” อยู่เต็มไปหมด สำหรับส่วนตัวฉันแล้ว คิดว่าเรื่อง “ครั้งแรก” ก็คือ ชุดบิกินี่มันเล็กชะมัด! เป็น MV ที่เปิดเผยมากสุดเท่าที่เคยถ่ายมาเลย

- ...อึ้งไปเลย โทษทีครับ (หัวเราะ)

จูรินะ: แต่สำหรับฉัน คนที่ “แมงโก้อย่างไม่น่าเชื่อ” คือ เอโกะจัง (เอโกะ ยูนะ) ล่ะ!

- สุกเต็มที่เลยสินะ...!

จูรินะ: ส่วนสุดะ (อาคาริ) จังน่ะ “ก้นมะม่วง”

- แม้จะไม่ค่อยเข้าใจว่าคุณพูดอะไร แต่ก็ขอบคุณนะครับ! จะว่าไป ธีมของ MV ครั้งนี้คือ “ร่วมแรงร่วมใจ”

จูรินะ: ก่อนจะถ่ายทำ MV พวกเราถูกบรีฟมาว่า “เนื้อหาอะไรยังไม่ได้ตกลงเลย ดังนั้นต้องตกลงกันเองนะ” สุดท้ายคือพวกเรามาช่วยกันดูรูปวิวสถานที่ต่างๆ แล้วทุกคนก็คุยกัน ในตอนนั้นน่ะ ถ้าไม่ “ร่วมแรงร่วมใจ” ล่ะก็เราจะไม่มีทางตกลงกันได้เลย เราใช้ความคิดที่ทุกคนเสนอมาเป็นฐาน แล้วก็ร่วมกันสร้าง MV นี้ขึ้นมา

- โอ้ เป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ! มองในมุมของ AVEX ซัง ยังไงนี่ก็เป็นผลที่พิจารณามาดีแล้วแน่ๆ

จูรินะ: นั่นสินะคะ ชูริรับหน้าที่เป็นตากล้อง จุดนี้ก็ต้องเป็นความ “ร่วมแรงร่วมใจ” ด้วยแน่ๆ เพราะครั้งนี้พวกเราทำขึ้นมาเอง รอชมกันด้วยนะคะ!


- งานต่อไปเราก็จะตั้งตารอดูคุณได้คาดเข็มขัดแชมป์นะครับ!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

blogged by 91

[91][bsummary]

Translation

[Translation][bsummary]

Subtitle

[subtitle][bsummary]

Update

[SKEUpdate][bsummary]