รุ่นพี่ได้ทยอยจบการศึกษาออกไป คู่ “อุฮะริอง” ที่ถูกจับตามองนั้นถือเป็นหน้าเป็นตาของวง
ด้วยใจที่สับสน ทั้งสองคนกำลังดิ้นรนในการเติบโตที่นาโกย่า พวกเขาในตอนนี้เป็นยังไงนะ?
บัดนี้ ดวงอาทิตย์เริ่มจะทอแสงแล้ว
Nippon Budokan สั่นสะเทือน
อยากเห็นภาพเมื่อ 4 ปีที่แล้วอีกครั้ง
คำพูดที่ซาเอะซังฝากไว้
- ตอนแรกคิดว่าถ้าริองได้ใบขับขี่แล้ว จะขับรถชมวิวไปสัมภาษณ์ไป ให้เรียวฮะนั่งข้างคนขับ
เรียว: อยากนั่งอ่ะ! ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว?
ริอง: ใกล้สอบรอบสุดท้ายแล้วล่ะ
เรียว: รู้สึกไงมั่ง?
ริอง: ก็พอได้ อยากได้ใบขับขี่เร็วๆอ่ะ จะได้ไปขับรถชมวิว จริงสิ เรื่องที่พูดเมื่อกี้ ไปฮอกไกโดกันมั้ยคะ!
เรียว: ขับรถชมวิวที่ฮอกไกโดหรอ? อยากไปๆ ตกลงตามนี้!
- ผมยังไม่ทันจะตกปากรับคำเลยนะ (หัวเราะ)
ริอง: ต้องสนุกแน่ๆ จะพาไป Coach&Four ล่ะ (Coach&Four ห้างใหญ่ที่ฮอกไกโด)
- นั่นคือห้างที่ริองไปถ่ายโฆษณาให้ใช่มั้ยครับ น่าไปจริงๆ แต่ว่างบของทางเรามัน...
เรียว: (ไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลย) อยากไปร้านซูชิที่ริองชอบด้วยอ่ะ!
ริอง: ดีเลย! งั้นคราวหน้าไปฮอกไกโดกันนะคะ!
- แม้พวกคุณจะตกลงกันแล้ว แต่ผมยังไม่ได้บอกว่า “อื้ม” เลยนะ (หัวเราะ) จะว่าไป ฝีมือขับรถเป็นยังไงบ้างครับ?
ริอง: ฉันขับดีนะคะ
- งั้นเหรอ!? ดูจากในวีดีโอที่โตโยต้าไอจิอัพโหลด คุณขับปีนขอบทางตลอดเลยนี่
ริอง: นั่นมันผ่านไปแล้วค่ะ! ตอนนี้ขับบนทางหลวงได้สบายๆแล้ว
เรียว: เก่งจัง!
- ไม่เก่งขนาดนั้นหรอกน่า! (หัวเราะ)
ริอง: ตอนขับจริงก่อนจะขึ้นรถก็กังวลมาก แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว
เรียว: พาฉันไปด้วยสิ!
ริอง: จริงด้วย อยากไป Nagashima (Spaland) มั้ย? (สวนสนุกที่ทีม S ไปถ่าย MV “Kanojo ga Iru” กันมา)
เรียว: ไปด้วย!!
- พวกเราเข้าเรื่องได้แล้วมั้งครับ (หัวเราะ) บทสัมภาษณ์จะตีพิมพ์ลงใน BUBKA ฉบับพิเศษ ส่วน BUBKA ฉบับปกติเล่มล่าสุดเป็นปกมิยาซาว่า ซาเอะล่ะ
เรียว: ฉันรู้ค่ะ! น่ารักมากเลย! สุดยอด!
- ขอบคุณครับ (หัวเราะ) นี่พอดีอีกไม่กี่ชม.ก็จะต้องขึ้นโคเอ็งจบการศึกษา(ของมิยาซาว่า)แล้ว ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง?
เรียว: ยังไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ ถึงจะรับรู้ว่ามันจริง แต่พอคิดว่าจะไม่ได้ขึ้นแสดงโคเอ็งด้วยกันแล้ว จะไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันแล้วก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลย
ริอง: นั่นสิน้า ตอนที่ซาเอะซังมา SKE48 เมื่อ 2 ปีก่อน ก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน เมื่อวานกำลังคิดว่าจะทำอะไรให้ซาเอะซังพอดี เลยคุยไลน์กับฟุตามุระ ฮารุกะซัง สุดท้ายก็ตกลงว่าจะทำเค้กล่ะ จากนั้นก็พยายามทำเค้กสุดฝีมือทั้งคืนเลย กะว่าพอโคเอ็งจบจะให้เป็นเซอร์ไพรส์ นี่อ่ะค่ะ (ว่าแล้วก็โชว์รูปเค้กให้ดู)
- โอ้ มีเขียนว่า “SAE” “LOVE” ด้วย! ขนาดริองยังทำให้ซาเอะซังขนาดนี้ แล้วเรียวฮะผู้ที่ชอบซาเอะซังที่สุดล่ะทำอะไรครับ?
เรียว: ทำอัลบั้มรูปจบการศึกษาของซาเอะซังกับทาเคอุจิ ไมซังค่ะ ทำจนถึงตีห้าเลยล่ะ! ตอนนี้เลยง่วงมาก
- ขอโทษนะครับ ที่เลือกเวลาเช้าแบบนี้มาสัมภาษณ์
เรียว: เพราะว่าเป็นงานทำมือน่ะค่ะ ต้องนั่งติดรูป กะว่าจะให้ตอนระหว่างโคเอ็ง ไม่ก็ตอนจบ
- สำหรับซาเอะซังนี่เต็มไปด้วย LOVE จริงๆเลยนะครับ วันนี้คงจะร้องไห้กันแน่เลย?
เรียว: ไม่ร้องค่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะร้อง ก้าวผ่านช่วงเศร้ามาแล้วค่ะ ไม่มีค่ะ ไม่มี!
- นี่เข้าสู่วิถี “เซน” แล้วเหรอครับ
ริอง: เรียวฮะต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน แม้ว่าวันที่ซาเอะซังประกาศจบการศึกษาจะเสียใจมากก็ตาม
เรียว: ไม่ใช่ซะหน่อย ก่อนคอนเสิร์ตจบการศึกษา 2 อาทิตย์สภาพฉันแย่มาก ขนาดงานจับมือยังร้องไห้เลยล่ะ
ริอง: เรื่องนี้ ไม่รู้เลยอ่ะ
เรียว: เป็นครั้งแรกเลยตั้งแต่เข้า SKE48 มาที่ร้องไห้หนักขนาดนี้ เพราะว่าไม่อยากร้องต่อหน้าเมมเบอร์คนอื่น ตอนที่กลั้นไว้ไม่อยู่ก็ไปแอบร้องไห้ในห้องสตาฟฟ์ซังตลอด ร้องจนตาบวมไปหมด แต่ว่าใช้น้ำยาหยอดตา แฟนๆก็เลยไม่รู้ (หัวเราะ)
- ต้องขอบคุณวิวัฒนาการทางการแพทย์นะครับ (หัวเราะ) จะว่าไป ในคอนเสิร์ตจบการศึกษาเมมเบอร์ก็เรียงแถวกันเป็นดอกไม้ ตอนนั้นซาเอะซังก็เข้าไปคุยทีละคนๆใช่มั้ยครับ? แม้วันนั้นจะเข้าไปดูบล็อกทุกคนแล้วแต่ไม่เห็นใครเขียนถึงที่คุยกันเลย
ริอง: ไม่เขียนอยู่แล้วค่ะ
เรียว: มันเป็นคำพูดที่อยากจะเก็บไว้ในใจ
- ในเมื่อมันสำคัญขนาดนี้ ตอนนี้ก็เปิดเผยเป็นครั้งแรกไปเลยเถอะครับ?
เรียว&ริอง: ไม่บอกค่ะ!
- งั้น ใบ้ซักนิดก็ยังดี
ริอง: งั้นบอกประโยคนึงละกัน “ขอฝากตัวกับปะป๊าหม่าม๊าด้วยนะ”
- หมายความว่าไงครับ?
ริอง: ก็ส่วนนี้มันไม่ค่อยสำคัญเลยบอกได้ ฮุๆๆๆ
เรียว: เรียวฮะน่ะ ยังไงก็ไม่บอกค่ะ
- ไม่บอกสินะ...อ่า..ทั้งๆที่เราอุตส่าห์ทำเล่มพิเศษแล้วแท้ๆ...(จงใจพูดเว่อร์ๆ)
เรียว: งั้นบอกใบ้นิดนึงก็ได้ เขาพูดกับฉันว่า “ดูแลตัวเองด้วยนะ” ชอบบอกฉันบ่อยๆว่า “เรียวฮะน่ะทำเป็นเก่งเกินไปนะ ไปปรึกษากับพวกผู้ใหญ่มากๆหน่อยก็ดีน้า” ฉันว่าเขาหมายความว่าอย่างนั้นแหละ
ริอง: เรียวฮะเป็นประเภทที่ไม่ค่อยพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาไง
- อย่างนี้นี่เอง หมายความว่า ให้ไปอ้อนมากๆหน่อยล่ะมั้ง?
ริอง: อยากรู้มากกว่านี้มั้ยคะ?
- อยากๆๆ
ริอง: ซาเอะซังส่งไลน์มาหาฉันล่ะ
เรียว: (หน้าดูอิจฉา) โกหกน่า! เมื่อไหร่กัน? ส่งมาเมื่อไหร่? ทำไม? ใช่ซาเอะซังเหรอ?
ริอง: วันที่มีคอนเสิร์ตจบการศึกษาฉันขอบคุณเขาไป เขาเลยตอบกลับมา ฉันอ่านจากไลน์ให้ฟังเต็มๆเลยแล้วกัน
- แปะๆๆๆๆๆ รออยู่นะครับ!
ริอง: “รี่ซัง คุ๊กกี้คันทรี่มัมอร่อยมากเลย! อร่อยกว่าซื้อที่ร้านอีก! ขอบคุณนะ คอนเสิร์ต 2 วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ ขอบคุณมากจริงๆ เธอน่ะทั้งสวยทั้งน่ารักแล้วยังดูลึกลับด้วย อยากเป็นแบบนั้นบ้างจัง แต่ว่าบางทีก็มีความรู้สึกว่าน่าเสียดายนะ ถ้าริองตระหนักถึงข้อดีพวกนั้นล่ะก็ จะต้องเป็นคนที่เก่งกว่าตอนนี้แน่ๆ ฉันตั้งตารออยู่นะ วันที่ 31 มีนาวันสุดท้ายก็ฝากตัวด้วยนะ” วันนั้น ฉันทำคุ๊กกี้ไปให้เขาค่ะ เขาก็ตอบกลับมาแบบนี้
เรียว: (อิจฉาจนแทบทนไม่ได้ x2)
- เรียวฮะซังกำลังอิจฉาแหละ สีหน้าบ่งบอกเลย (หัวเราะ)
เรียว: ไม่ใช่ซะหน่อย แค่คิดว่าเยี่ยมไปเลย ซาเอะซังน่ะใจดีกับทุกคน ฉันชอบที่ตรงนี้แหละ!
ริอง: ฉันอ่านเนื้อหาในไลน์ให้ฟังไปหมดแล้ว งานถ่ายที่ฮอกไกโด ฝากด้วยนะคะ
- อันนี้คุยตรงนี้ไม่ได้มั้งครับ....
ตัวตนที่แท้จริงกับตัวตนใหม่
- ซาเอะซังมีพูดว่า “น่าเสียดาย” ด้วย คุณคิดว่าเพราะอะไรครับ?
ริอง: ฉันรู้ค่ะ คนอื่นมักจะมองว่าฉันเป็นพวกเก็บตัว ดูเหมือนไม่ค่อยมีแรงผลักดัน แล้วก็ดูเหนื่อยหน่ายด้วย เมื่อกี้นี้เห็นตัวเองจากมอร์นิเตอร์ ถึงได้รู้สึกว่า “ที่แท้ก็แบบนี้นี่เองที่ทุกคนบอกมาตลอด!” เดิมทีฉันก็ไม่ใช่คนที่ร่าเริงอะไร เสียงก็เบา ยิ่งเป็นข้อเสียเข้าไปอีก แต่ว่าเพราะซาเอะซัง ฉันเลยค่อยๆร่าเริงขึ้น ฉันได้รับความสดใสร่าเริงจากซาเอะซังค่ะ
- ต้องขอบคุณซาเอะซังสินะครับ?
ริอง: ใช่ค่ะ ฉันเป็นประเภทขี้อาย ไม่ค่อยสนิทใจกับใครเท่าไหร่ แต่ว่าตอนนี้รู้สึกว่าเข้าใจแล้วว่าการเข้าสังคมก็เป็นงานอย่างหนึ่ง เรื่องนี้ซาเอะซังสอนฉันมา จะว่าไปเรียวฮะเองก็เป็นประเภทคล้ายๆกันกับฉัน
เรียว: เอ๋? ประเภทน่าเสียดายเหรอ? ไม่เคยได้ยินใครพูดเลย
ริอง: เป็นอย่างนั้นแน่ๆ (หัวเราะ)
เรียว: แปลกจังน้า แต่ว่า ฉันสนิทแล้วนะไม่มีอะไรแบบนี้หรอก
- สนิทแล้ว (หัวเราะ) งั้นขอใช้โอกาสนี้ พูดอะไรหน่อยนะครับ เรียวฮะเวลาที่อยู่กับมัตสึโมโต้ จิคาโกะซังน่ะเป็นคนละคนเลยนะ
ริอง: ฉันก็คิดงั้นเหมือนกัน!
เรียว: คนละคน...ค่ะ (หัวเราะ) ฉันชอบเล่นอะไรบ้าๆบอๆตอนอยู่ด้วยกันกับเมมเบอร์ ตอนก่อนเข้า SKE48 ก็เหมือนกัน ไปโรงเรียนก็โดนดุในคาบเรียนบ่อยๆ จริงๆแล้วฉันเป็นคนแบบนั้นแหละ แต่ว่าหลังจากเข้า SKE48 ความคิดก็จริงจังมากขึ้น คิดว่าจะต้องทำอะไรๆด้วยความสุขุม ก็เลยดูเหมือนเงียบๆ ฉันคิดว่า ตัวฉันตอนที่อยู่กับจิคาโกะคือฉันที่แท้จริงล่ะ
ริอง: เวลา 2 คนนี้อยู่ด้วยกันทีไร ตามไม่ทันทุกที
เรียว: ก็แค่ป่วนเล่นๆกันแค่นั้นเอง (หัวเราะ) อีกอย่าง พอซาเอะซังจบการศึกษาไปแล้วก็ไม่มีใครสร้างบรรยากาศในห้องแต่งตัวแล้ว จากนี้ไปให้เป็นหน้าที่ฉันกับจิคาโกะเอง!
ริอง: เอาเลย! ที่จิคาโกะได้เป็นรองลีดเดอร์ทีม S ก็คงมีความหมายแบบนี้ด้วยแน่ๆ จิคาโกะกับซาเอะซังก็คล้ายกันอยู่นะ
เรียว: คล้ายมากเลยล่ะ
ริอง: เป็นคนแปลกๆเหมือนกัน เนอะ
- จิคาโกะซังน่ะ ถ้าพูดตามที่ผมเห็น ก็ยังไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่นะครับ
เรียว: ยังเรียกริองว่า “นามาระ! นามาระ!” อยู่เลย (ภาษาพูดของฮอกไกโด แปลว่า มากๆ หรือ สุดยอด)
ริอง: ใช่ เป็นวิธีที่จิคาโกะทักทายฉันน่ะ (หัวเราะ)
- เป็นคนแบบนี้เองสินะครับ อยากสัมภาษณ์เธอบ้างจัง แต่ว่าพอซาเอะซังจบการศึกษาไปแล้ว บรรยากาศในทีมเปลี่ยนไปมั่งมั้ยครับ?
ริอง: (ซาเอะซัง) ไม่ได้ขึ้นโคเอ็งบ่อยๆ คงไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนเยอะค่ะ
เรียว: แต่ว่าไม่ใช่ทีมค่ะ ถ้าพูดถึงทั้งวงมันไม่เหมือนเดิม มีเรื่องที่มีแต่ซาเซอะซังเท่านั้นที่ทำได้ ซาเอะซังจะคอยเอาความคิดเห็นของเมมเบอร์ไปบอกสตาฟฟ์ซัง ถ้าซาเอะซังพูดเมมเบอร์ก็จะเห็นด้วย ถ้าถามว่าใครจะมารับหน้าที่นี้ต่อก็ต้องเป็น (ไซโต้) มากิโกะซังล่ะนะ
- กัปตันคนใหม่มากิโกะซังเป็นคนยังไงครับ?
ริอง: เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีค่ะ เข้ากับคนอื่นเก่งมากเลย
เรียว: เป็นเพื่อนกับเมมเบอร์ AKB48 ซังด้วย
ริอง: ช่วงนึงเคยอาศัยอยู่ห้องเดียวกับเขาด้วย เป็นรุ่นพี่ที่เข้าถึงง่ายมาก เหมาะมากเลยที่ได้เป็นกัปตัน
เรียว: เหมาะมากเลยเนอะ!
ริอง: บางทีการได้รับตำแหน่งกัปตันก็ทำให้หนักใจอยู่ไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะคะ แต่เมมเบอร์ทุกคนชอบมากิโกะซังมากเลยอยากจะสนับสนุนเขาน่ะค่ะ
เรียว: เรียวฮะก็สนับสนุนเหมือนกัน
ออกจากวิกฤติ
- เราเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า พวกคุณคิดว่า SKE48 ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์แบบไหนครับ?
ริอง: เพิ่งจะออกมาจากวิกฤติครั้งที่ใหญ่ที่สุดค่ะ
เรียว: เรียวฮะก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน!
เรียว & ริอง: เย่! (ไฮไฟว์กัน)
- รู้สึกได้จากไหนเหรอครับ?
ริอง: อย่างไม่นานมานี้ ในรายการ LINE live ก็มีคนดูตั้ง 8 แสนคนแน่ะ
เรียว: อันนี้ดีใจมากเลยเนอะ!
ริอง: ไม่ใช่จำนวนคนทั้งหมดนะคะ แต่เป็นจำนวนคน 8 แสนคนเน็ตๆ อีกอย่าง BUBKA ซังก็ยังไม่ได้ทำ SKE48 ฉบับพิเศษขึ้นมาเลยด้วย ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
เรียว: แล้วก็มี ESCA!
- แคมเปญของห้างสถานีในรถไฟใต้ดินที่นาโกย่า ที่ให้ SKE48 เป็นพรีเซนเตอร์ตั้งแต่เดือนเมษายนสินะครับ
เรียว: เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มากค่ะ ได้ประกาศออกไปว่านี่แหละ “SKE48 แห่งนาโกย่า”
ริอง: แล้วก็ ยังได้ลงนิตยสารเยอะขึ้นด้วย ฉันเองก็ได้รับเลือกให้ขึ้นปกด้วยค่ะ
เรียว: ใช่ ได้ลงเยอะขึ้นด้วย
ริอง: ตั้งแต่ประมาณหนึ่งปีก่อน อยู่ดีๆงานถ่ายแบบนิตยสารก็น้อยลง แต่ปีนี้ฉันยังไม่ได้พักเลย
- งั้นที่ริองซังพูดเมื่อกี้ “วิกฤติครั้งใหญ่ที่สุด” คือตอนไหนครับ?
ริอง: ตอน “Koppu no naka no komorebi” ค่ะ ฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว
เรียว: นั่นสิน้า
ริอง: พูดอีกอย่างก็คือ หลังจาก (มัตสึอิ) เรนะซังจบการศึกษาค่ะ แล้วก็ยังมีตอนที่รู้สึกว่าแย่ละ คือช่วง “Bukiyou Taiyou” ฤดูร้อนปีที่แล้ว
- ก็คือ หลังจากนาโกย่าโดมสินะครับ?
เรียว: จำได้ว่ารู้สึกถึงช่องว่างระหว่าง “Mirai to wa?” กับ “Bukiyou Taiyou” ค่ะ
ริอง: แต่ว่าตอนนี้รู้สึกว่ากำลังมุ่งหน้าไปทางที่ดีค่ะ
- นี่เป็นเพราะอะไรครับ?
ริอง: ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าเมมเบอร์ทุกคนต่างพยายามเต็มที่เลยใช่มั้ยล่ะคะ สตาฟฟ์ซังเองก็พยายามในที่ๆเรามองไม่เห็นอยู่เหมือนกัน
เรียว: ใช่แล้ว ทุกคนรู้ดีว่าเป็นแบบตอนนี้มันไม่ไหวแน่ ก็เลยร่วมแรงกัน ตอนที่ SKE48 ร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันจะมีพลังมากเลยล่ะ ตรงนี้น่ะ ยังไงก็ไม่แพ้
การเลือกตั้งที่ลังเลและมุ่งมั่น
- สุดท้ายที่อยากถามคือ เรื่องของงานเลือกตั้งครับ
ริอง: แน่นอนต้องคุยเรื่องนี้อยู่แล้วเนอะ (หัวเราะ) จริงๆแล้วปีนี้ก็ลังเลเหมือนกันว่าจะลงหรือไม่ลงดี
- เอ๋? ทำไมล่ะครับ?
ริอง: เป้าหมายเมื่อปีที่แล้วคือ “ติดอันดับ” เป้าหมายนั้นก็บรรลุแล้ว (อันดับที่ 61) คิดว่าคงจะมีคนที่เหนื่อยล้าเพื่อการนี้อยู่แน่เลย แต่ว่าเลือกตั้งก็มีข้อดีเยอะเหมือนกัน ปีที่แล้วที่ติดอันดับก็ได้งานมาไม่น้อยเลยค่ะ
- รู้สึกว่ามีแฟนใหม่ๆเข้ามาที่งานจับมือบ้างมั้ยครับ?
ริอง: มีค่ะ นั่นเป็นเพราะได้ออกสื่อมากขึ้น ได้ออกทีวีเพราะฝีมือการเล่นเปียโน รายการ “konya wa otomari” ก็ค่อนข้างเด่น ก็มีแฟนที่มาบอกว่า “ได้ดูรายการ....ด้วยล่ะ” ค่ะ
- เรียวฮะว่ายังไงครับ?
เรียว: ฉันน่ะ เรื่องลงเลือกตั้งคิดจนถึงตอนสุดท้ายเลย ก่อนหน้านี้ตัดสินใจว่าจะไม่ลงค่ะ ถ้าไม่ติดขึ้นมา หรืออันดับตกลง อาจจะมีคนพูดว่า “คิตากาว่า เรียวฮะก็มาได้แค่นี้ล่ะ” ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นค่ะ
ริอง: อื้ม เรื่องนี้ฉันก็กลุ้มใจเหมือนกัน
- แต่ว่า สุดท้ายก็ตัดสินใจลง แม้แต่ละคนจะมองงานเลือกตั้งต่างๆกันไป แต่ก็ต้องบอกว่า สำหรับโลกนี้ “AKB48 = งานเลือกตั้ง” ล่ะนะครับ
เรียว: เรื่องนี้ฉันรู้ค่ะ
- อย่างการได้ดูข่าวเช้าโดยไม่ตั้งใจ คนที่รายงานข่าว AKB48 ก็รายงานข่าวเรื่อง SKE48 ด้วย นี่ก็สำคัญมากเลยใช่มั้ยล่ะครับ อย่างเช่น ที่เขาพูดถึงเรื่อง “SKE48 เป็นวงอันดับหนึ่ง” ข่าวพวกนี้ก็จะไปถึงคนพวกนี้ง่ายมากเลย
ริอง: ฉันก็คิดว่าเรื่องนี้สำคัญค่ะ
- อีกอย่างบางที งานเลือกตั้งอาจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะเผยแพร่ชื่อของ SKE48 ออกไป แม้ว่าซิงเกิ้ล รายการเพลงจะสำคัญ แต่ SKE48 ในงานเลือกตั้งน่ะแข็งแกร่ง
ริอง: จริงค่ะ
- ขอโทษนะครับที่พูดมากไปหน่อย เป้าหมายของทั้ง 2 คน คือ undergirls ใช่มั้ยครับ?
เรียว & ริอง: ใช่ค่ะ
เรียว: เมื่อก่อนประกาศถึงแค่ 40 อันดับเองใช่มั้ยคะ? เพราะงั้นถ้าไม่ได้เกินกว่านั้นก็ยังไม่เป็นที่พอใจค่ะ
ริอง: อันดับที่สูงกว่าปีที่แล้วเป็นเป้าหมายของฉันค่ะ แต่ว่าก็ยังไม่กล้าพูดออกไปว่าเป็นเซมบัตสึ Undergirls ก็เป็นเป้าหมายที่สูงมากเหมือนกัน แต่เป้าหมายยิ่งสูงตัวเองก็ยิ่งพยายาม
- งานเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน undergirls มาจาก SKE48 เยอะมาก ทำให้ Nippon Budokan สั่นสะเทือนไปหมด ถ้าเกิดขึ้นอีกล่ะก็ คงสุดยอดไปเลยนะครับ
ริอง: ฉันก็อยากเห็นภาพแบบนั้นเหมือนกัน (หัวเราะ)
- จะว่าไปแล้ว ปีที่แล้วตอนช่วงนี้ก็ได้สัมภาษณ์ทั้งสองคนเหมือนกัน เทียบกับตอนนั้นแล้ว คิดว่าทั้งสองคนพัฒนาไปมากเลย แบบว่าแข็งแกร่งขึ้น
เรียว: จริงเหรอคะ?
- คิดอย่างนั้นจริงๆครับ ตอนที่สัมภาษณ์ซาเอะซัง เธอบอกว่า “อยากบอกเมมเบอร์ที่คิดว่าไม่ไหว ว่าฉันน่ะเจอช่วงตกต่ำมา 3 รอบแล้ว ฉันเข้าใจความรู้สึกนั้น แต่ก็ผ่านมาได้” ถ้าผ่านอุปสรรคไปได้ก็จะทำให้แข็งแกร่งขึ้นใช่มั้ยล่ะครับ?
เรียว: ฉันน่ะ เจอมาแล้วล่ะ! ลองแล้ว ลองอีก ลองไปเรื่อยๆ
- เรียวฮะซังตอนเป็นเคงคิวเซย์ก็ได้ผ่านการลองเป็นอันเดอร์ทีม S ด้วยสินะครับ
เรียว: ใช่ค่ะ ผ่านสภาพที่จำเป็นต้องรับไว้นั้นมา ถ้าเป็นที่โรงเรียนล่ะก็ ฉันคงไม่เอาแน่ คงจะบอกว่า “จะออกจากโรงเรียนล่ะนะ” แต่ว่าที่นี่ไม่ใช่โรงเรียน แต่เป็นโลกที่ฉันเข้ามาด้วยความชอบของตัวเอง ถ้าหนีไปมันก็คงจบ
- แข็งแกร่งขึ้นแล้วนะ ทางด้านริองซังล่ะครับ?
ริอง: ฉันไม่ได้ผ่านอะไรแบบนั้นมาค่ะ แต่จากนี้ก็คงมี การซ้อมละครเวที AKB49 ก็เริ่มขึ้นแล้วด้วย
เรียว: พยายามเข้า (หัวเราะ) ปีที่แล้วฉันก็ผ่านมันมา แม้ฉันจะพูดว่าพยายามเข้านะได้ไม่เต็มปาก แต่ตอนนั้นน่ะฉันพยายามจริงๆนะ
- ตัวละครหลักอุราคาว่ามิโนรุ / มิโนริ เป็นบทที่สำคัญมากเลยนะครับ
ริอง: ที่ได้รับบทแทน (ชิบาตะ) อายะซังน่ะ อันที่จริงฉันบอกไปแล้วรอบนึงว่าไม่ไหวค่ะ แต่คิดว่าการลองทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ก็ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ การซ้อมยังไม่เริ่มฉันก็เป็นเสี่ยงๆแล้ว ใจนี่เหมือนโดนเข็มทิ่มเลยค่ะ
เรียว: จะเอาใจช่วยนะ! จะไปดูตอนซ้อมด้วย!
- ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าผ่านมันไปได้...
ริอง: จะได้ไปถ่ายงานที่ฮอกไกโดใช่มั้ยคะ?
- เรื่องนี้ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยซักคำ (หัวเราะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น