วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

(ทีมงานติ่ง) AKB48 SHOW! ep84 (Matsui Rena Show!) [TH]

 


Description ::
- ขอขอบคุณนักแปลประจำ ‪#‎ทีมงานติ่ง‬ อีกครั้งค่ะ..
เป็นซับไทยของAKB48 SHOW! ตอนพิเศษเพื่อเรนะคนเดียว "มัตสึอิ เรนะ โชว์!"
ในตอนประกอบไปด้วยคอนโตะ(ละครแก๊ก)สองเรื่อง การแสดงสองเพลงคือ Maenomeri กับ 2588วัน รวมไปถึงช่วงจับเข่าคุยกับทากามินะในหลายๆหัวข้อ รับชมกันได้เลยค่ะ ^^




(Talk) จนถึงวันซึ่งก้อนกรวดถูกเจียระไนเป็นเพชร SKE48 โคอิชิ คุมิโกะ



โพสต์นี้อยากจะเล่าเรื่องของหินน้อย หรือคุมิจัง
สาวน้อยหน้าสวยเสียงแหลมติ่งเคป๊อบให้ทุกคนฟัง (ฮา)
คุมิโกะเป็นดราฟท์รุ่นหนึ่งที่ได้เดบิวท์เป็นคนแรกๆ
 เป็นเด็กที่หลงใหลในความเป็นไอดอลเลยตัดสินใจมาสมัครออดิชั่นดราฟท์
และถูกเลือกมาโดยทีมEที่เรนะเป็นลีดเดอร์ตอนนั้น
และมัตสึอิ เรนะคนนั้นก็เป็นคนเดียวกับที่ทำให้น้องร้องไห้ กลัว แต่ก็รักจนระดับที่เรียกว่า"คุณแม่" เลยทีเดียว(ฮา)
ก่อนน้องจะขึ้นสเตจBoku no Taiyouครั้งแรก น้องได้ซ้อมตัวต่อตัวกับเรนะ


คุมิบอกว่าตอนนั้นกลัวเรนะมาก เรนะไม่ยิ้มเลยแม้แต่นิดเดียว

 ร้องไห้ไม่หยุดแถมบอกอีกว่า"ผิดหวัง"ในตัวคุมิโกะ
ตอนนั้นรู้สึกแย่มากที่ทำให้คนที่เลือกเค้ามาผิดหวัง
เลยซ้อมไม่กินไม่นอนจนครูต้องขอให้หยุด
วันต่อมาเรนะแคนเซิลแผนการตัวเองวันนั้นแล้วมาดูคุมิโกะซ้อมอีกวัน
เป็นวันก่อนขึ้นสเตจโบคุไทพอดี
ตอนนั้นพอซ้อมให้ดูจนสุดแรงเสร็จ เรนะก็ไปปรึกษาคุยอะไรนิดหน่อยกับครูสอนเต้นฃ ตอนแรกคุมิคิดว่าคงไม่ได้ขึ้นแล้วแน่ๆ
แต่เรนะก็มาบอกว่ายินดีด้วยนะ แล้วกอดเธอไว้แน่น ฃคุมิบอกว่าเป็นความทรงจำที่มีความหมายมากๆ และจะไม่มีวันลืมเลย
และทั้งๆที่เข้มงวดขนาดนั้น
แต่ทวิตเตอร์เรนะในวันที่คุมิโกะเดบิวท์ มีแต่ความภูมิใจและบอกทุกคนว่า

"สเตจแรกต้องไปได้สวยแน่ๆ เพราะฉันเชื่อว่าเธอคือเด็กที่จะเปล่งประกายกว่าใคร" (ซึนเดเระ..)

เรนะชอบมาขอโทษเค้าว่าขอโทษนะที่เข้มงวดเกินไป
 แต่สำหรับเค้าแล้วมันเป็นความรักจากเรนะที่เค้าสัมผัสได้และเค้าคงไม่มีวันเต้นRiverได้ขนาดนี้ในสเตจจบการศึกษาที่ไม่มีเรนะที่คอย เข้มงวดอยู่เสมอ
แม้แต่ในแพมเพลทคอนจบการศึกษาเรนะ คุมิโกะก็บอกว่าสิ่งที่เค้าอยากทำคือเต้นRiver
เพราะเป็นเพลงที่ทำให้SKEเลือกเค้ามา จากตอนนั้นยังเต้นไม่ดีเลย อยากให้เรนะซังเห็นว่าเค้าโตขึ้นขนาดไหน..
หลังเดบิวท์สเตจ คุมิโกะก็เขียนเมล์ยาวมากถึงเรนะ ว่าซักวันจากก้อนกรวด เค้าจะเป็นเพชรที่เปล่งประกายให้ดู
หินน้อยในวันนั้นโตมาเป็นเพชรที่เปล่งประกายในวันนี้แล้วนะ ><

"ช่วงเวลา2ปีครึ่งที่ร่วมไล่ตามความฝันมาด้วยกัน จะไม่มีวันลืมเลยค่ะ"

เป็นคำพูดในบลอคสุดท้ายของคุมิโกะแด่แฟนๆ
คุมิโกะถึงจะออกจากวงการบันเทิงหลังจากนี้ แต่เราก็ดีใจที่ช่วงชีวิตในSKE48ของคุมิโกะ
เป็นช่วงเวลาที่คุมิโกะพูดออกมาได้ว่า "มีความสุขที่สุดในชีวิต" และ "จะไม่มีวันลืม"
ทั้งๆที่เขียนถึงคุมิโกะแท้ๆ แต่มีเรื่องเรนะเต็มไปหมด(ฮา) เอามาจากบลอคเกือบสุดท้ายของคุมิโกะแหละค่ะ
80%ของบลอค
เพราะน้องบอกว่า เรนะเป็นคนที่เฝ้ามองเค้าตั้งแต่วันแรก จนวันสุดท้ายที่อุตส่าห์มาดูสเตจจบการศึกษาด้วย
ไม่อยากจะเชื่อเลย ทั้งๆที่ทุกคนบอกเรนะซังไม่มาแหงๆแท้ๆ (โดนหลอก ฮา)
เค้าจะไม่มีวันเล่าเรื่องราวชีวิตของเค้าโดยปราศจากชื่อของมัตสึอิ เรนะ ได้เลย
คุณแม่ของเด็กดราฟท์
ขอบคุณที่ทำให้เรารู้จักไอดอลที่ชื่อโคอิชิ คุมิโกะ สนุกมากจริงๆ ><

 #ร้องไห้หนักมาก

เชิญชมRiver ของน้องหินน้อยที่เปล่งประกายเป็นเพชรแล้วกันค่ะ 

 ขออนุญาตคุณAKB48THTยกบลอคของคุมิโกะมาแปะในนี้ด้วย :)

เรื่องโคเอ็นจบการศึกษา( 石 ・ω・)つ⌒●
2016.02.25 21:24

โคเอ็นจบการศึกษาจบแล้วค่ะ
(ขอโทษที่อัพช้านะคะ)

เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากจริง ๆ

ดีใจจริง ๆ นะที่ตัวเองได้เข้า SKE

ตั้งแต่ประกาศจบการศึกษาจนถึงโคเอ็นจบการศึกษาเป็นเวลาแป๊บเดียวเท่านั้นเอง

เลยไม่รู้สึกเลยว่ามันเป็นความจริง....

จริง ๆ แล้ว ตอนนี้ก็ด้วยนะ

นี่ฉันจบการศึกษาแล้วจริง ๆ เหรอ ฮ่า ๆ

พอจบการศึกษามาแล้ว
ก็ตระหนักได้ว่า
ดีจริง ๆ นะที่ได้เข้า SKE
เพราะเป็น SKE นี่แหละฉันถึงมีความสุขได้ขนาดนี้


แต่ช่วงแรก ๆ ที่เข้า SKE ฉันไม่เอาไหนเอาซะเลย ก็รู้สึกตกใจเหมือนกันที่ตัวเองมาได้ขนาดนี้

ที่มาได้ขนาดนี้ทั้งหมดเป็นเพราะแฟน ๆ ทุกคนนะคะ

เอาจริง ๆ ก็มีคนบอกเหมือนกันว่าเร็วไปรึเปล่า
แต่ฉันว่าจะเร็วจะช้ามันไม่เกี่ยวกันหรอก

เพราะความเร็วในการค้นพบความฝันของตัวเองก็ต่างกันไปตามแต่ละคนอยู่แล้วนี่นา

แล้วฉันก็คิดว่าเราอยู่มานานแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่าเราผ่านอะไรมาบ้างต่างหาก

แม้จะเป็นเวลาแค่สองปีครึ่ง แต่เป็นช่วงเวลาที่ฉันได้อุทิศตัวเองอย่างจริงจังก็เลยไม่รู้สึกเสียใจเลยค่ะ!!


ในช่วงเวลาสองปีครึ่งนี้

ฉันได้ออกรายการวาไรตี้เยอะแยะ
ได้เล่นโคเอ็นตั้งแต่วันแรกเลยด้วย
แถมยังได้จัดรายการวิทยุตั้งเยอะ
พอจบการศึกษามาแล้ว พวกเด็กดราฟท์คนอื่นก็มาบอกฉันว่าช่วงแรก ๆ มีแต่คุมิจังที่ได้งานเยอะแยะ ก็เลยรู้สึกอิจฉาฉันมากเลยนะ

แต่อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งยืนของฉันก็เคยถูกเลื่อนไปอยู่แถวหลังบ้าง เคยไม่ได้เล่นโคเอ็นบ้างก็มีเหมือนกันนะ
ในทีม E มีแต่ฉันคนเดียวที่ไม่มีตำแหน่งยืนของตัวเอง พอซ้อมเสร็จก็ไปร้องไห้ในห้องน้ำก็เคยค่ะ
(ตอนนั้นอายะซังมากอดปลอบ เมซังก็มาลูบหลังให้ด้วยล่ะค่ะ(*^^*))

ผ่านประสบการณ์มากมาย
แม้ว่าจะไม่ได้มีแต่เรื่องดี ๆ เท่านั้น
แต่เพราะมีประสบการณ์อันน่าเจ็บใจอยู่ด้วยนี่แหละ

ที่ทำให้ตอนนี้ฉันควรรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากนะ

ฉันเป็นเด็กติดทีวีค่ะ

พอได้ดู AKBซังกับSKEซังผ่านทางรายการเพลง
แล้วก็คิดว่ามันช่างเป็นโลกที่สว่างไสวอะไรขนาดนั้นนะ

แต่พอตัวเองได้เข้ามาในวงการนี้จริง ๆ ก็พบว่า
เบื้องหลังเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อแห่งความพยายามกับน้ำตาแห่งความเจ็บใจ
ทุกคนแข่งขันกันอย่างรุนแรงในเชิงความหมายที่ดี

เป็นโลกที่แค่มองผ่านทีวีอย่างเดียวจะไม่มีวันเข้าใจได้เลยจริง ๆ ค่ะ

พูดตามตรง ฉันมักจะร้องไห้อยู่บ่อย ๆ ร้องไห้เพราะโดนต่อว่าเป็นประจำเลยล่ะค่ะ

แต่ว่านะ

สิ่งที่ลอยขึ้นมาในหัวตอนนั้น
ก็คือรอยยิ้มของแฟน ๆ ค่ะ

แฟน ๆ คอยให้กำลังใจฉัน คอยสนับสนุนฉัน เหมือนกับครอบครัวไม่มีผิด


แค่ได้พบกับแฟน ๆ ฉันก็สามารถยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้วก็ได้รับความกล้ามาอีกว่า พยายามต่อไปนะเรา

ฉันอยู่มาได้ด้วยรอยยิ้มค่ะ
ขอบพระคุณมากจริง ๆ นะคะ

แฟน ๆ คือทรัพย์สมบัติของฉัน

จากนี้แฟน ๆ ทุกคนก็จะอยู่ในใจฉันตลอดไปค่ะ!! ไม่ลืมหรอกนะคะ!!!(*^^*)


แล้วก็ แล้วก็ ในโคเอ็นจบการศึกษา

เหมือนว่ามัตสึอิ เรนะซังจะมาดูด้วยล่ะค่ะ
เชื่อมั้ยล่ะ?
เพิ่งผ่านมาสองวันแต่ฉันยังต้องหยิกแก้มตัวเองอยู่ว่าไม่ใช่ความฝันใช่มั้ย


อุตส่าห์มาดูตั้งแต่แรกเลยล่ะค่ะ

ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ นะ

ก็ทั้งพวกรุ่นพี่ ทั้งรุ่นเดียวกัน
เอาแต่บอกว่าเรนะซังไม่มาหรอก ไม่เห็นจะอยู่เลย ฮือ

ทานิซังก็เหมือนกัน ตอนแรกก็เห็นพูดอยู่ว่ามีคนที่หน้าตาเหมือนเรนะซังอยู่ด้วยนะ
แต่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องไปพูดถึงว่าฉันหน้าตาเหมือนชิบาซากิ โคซังซะงั้นแหละ เดี๋ยวร้องไห้เลยนี่! ฮ่าๆ

เรนะซังก็นะ ฮือ

ส่งเมลมาด้วยแหละ

บอกว่า

ขอให้สนุกกับโคเอ็นวันนี้นะ

แค่นี้เองค่ะ เป็นเนื้อหาที่ชวนให้คิดว่าต้องไม่มาดูแหง ๆ เลย

แต่พอโคเอ็นจบ เรนะซังก็อยู่รอฉันด้วย

ก็ฉันดูทั้งนิทเช่เซนเซย์ ทั้งFragileด้วยนี่นา

มีเรนะซังตัวเป็น ๆ ที่อยู่ในละครมาอยู่ตรงนี้

มีคุณแม่อยู่ด้วยที่นี่

ฉันร้องไห้จนมองไม่เห็นหน้าเรนะซังเลย
แถมยังจำไม่ได้ด้วยว่าคุยอะไรกันไปบ้าง

พอคุยกับเรนะซังทีไร ฉันก็มักจะร้องไห้ทุกทีเลยค่ะ


ตอนซ้อมเดบิวท์ Boku no Taiyou
ที่ฉันต้องซ้อมตัวต่อตัวกับเรนะซัง ฉันก็ร้องไห้


เรนะซังน่ากลัวมากเลยล่ะค่ะ

แต่พอมีกำหนดโคเอ็นเดบิวท์ เค้าก็มากอดฉันแน่นเลย

ฉันยังจำได้อยู่เลยว่าเค้ามาดูโคเอ็นเดบิวท์แล้วก็เขียนอะไรมากมายลงในทวิตเตอร์ด้วย

เค้าคอยรับฟังปัญหาของฉันตลอด

เรนะซังคอยอยู่ข้างกายฉันเสมอเลยล่ะค่ะ (;_;)

เรนะซังคอยเฝ้าดูฉันมาตั้งแต่ครั้งแรกจนครั้งสุดท้าย


คุณแม่ของเด็กดราฟท์อย่างพวกเราเจ๋งที่สุดเลย (;_;)


ฉันมีความสุขมากนะคะที่ได้รับความรักมากมายจากเรนะซัง

แต่เรนะซังก็มาขอโทษฉันอยู่ตลอดเลยว่า
ขอโทษนะที่เข้มงวดไปบ้าง

เพราะฉะนั้น นี่ไม่รู้ว่าเรนะซังจะได้อ่านหรือเปล่านะ
แต่ฉันอยากบอกมาก ๆ เลยว่า ถ้าเรนะซังไม่เข้มงวดกับฉันล่ะก็ ฉันคงไม่มีวันเต้น RIVER ได้ขนาดนั้นแน่นอนเลยล่ะค่ะ!! ฮ่า ๆ

ฉันรักเรนะซังที่สุดเลย

เรนะซังสื่อความรักที่มีต่อฉันมาให้สัมผัสได้มากพอแล้วล่ะ

สัมผัสได้จริง ๆ นะคะ!!!!!


พออ่านจดหมายจากเรนะซังแล้วก็รู้สึกประทับใจมาก

จนเผลอหลุดปากพูดออกไปว่า "เรนะนี่เรนะจริง ๆ " ฮ่า ๆ


ขอโทษนะคะ

ฉันโชคดีมากมากมากที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าทีม E ที่มีเรนะซังอยู่ค่ะ


รู้สึกซาบซึ้งคุณแม่มาก ๆ สำหรับช่วงเวลาอันแสนสุขที่ไม่อาจลืมได้ชั่วชีวิต


ให้ฉันเล่าชีวิตของตัวเองโดยขาดเรื่องของมัตสึอิ เรนะซังให้คนอื่นฟังไม่ได้หรอก(*^^*)


ดีจริง ๆ นะคะที่ฉันได้เข้า SKE !!!!!\(^o^)/


และฉันก็ตั้งใจจะปิดม่านตัวเองด้วยบล็อกเรื่องโคเอ็นจบการศึกษานี้ล่ะค่ะ


ทุกท่านที่อยู่ในโลกของคุมิคุมิ
ฉันจะเติบโตขึ้นมากกว่านี้และเป็นผู้ยิ่งใหญ่ให้ได้
เพราะงั้น อย่าลืมกันนะ!! (*^^*)


ขอบพระคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เลยค่ะ


2016.2.25 โคอิชิ คุมิโกะ
 จาก https://twishort.com/Epbkc

(Talk) "รับรู้อยู่นะ..ว่าปาฏิหาริย์จะมาถึง" SKE48 มิยาซาวะ ซาเอะ

"ว่าด้วยเรื่องของเซมบัตสึซิงเกิลถัดไปของSKE
รู้สึกขอบคุณมากค่ะที่ได้รับเลือก แต่ว่าฉันจะไม่ได้เข้าร่วมในงานจับมือของซิงเกิลนั้น

"ถ้าเป็นไปได้อยากให้เมมเบอร์คนอื่นได้โอกาสนี้ได้ไหม.."
ก็เลยลองคุยกับสตาฟซังไปแบบนี้ค่ะ"
โมบาเมะซาเอะว่าด้วยเรื่องเซมบัตสึในซิงเกิลสุดท้ายของ SKE48



จากวันแรกของซาเอะกับวงSKE48 เราในฐานะแฟนSKEคนหนึ่งก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าซาเอะกับSKEจะสามารถมีความรู้สึกและเป้าหมายร่วมกันได้ขนาดนี้
 ซาเอะที่พูดออกมาและทำจริงๆว่าเค้าอยากจัดคอนเสิร์ทจบการศึกษาที่นาโกย่า และได้จัดคอนในไกชิฮอลล์ที่เป็นฮอลล์ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของSKE
ครั้งล่าสุดที่SKEจัดคอนเสิร์ทที่นี่คือคอนเสิร์ทจบการศึกษาของเมมเบอร์9คน

และที่สำคัญคอนเสิร์ทนี้ทั้งสองวัน เป็นคอนเสิร์ทSKE48ของแท้จริงๆ โดยไม่มีเมมเบอร์AKBคนไหนมาขึ้นเลย ทั้งๆที่ความจริงซาเอะจะเรียกมาก็ได้ ใครๆก็อยากมาส่งเค้าอยู่แล้ว
และแฟนๆก็คิดไว้อยู่แล้วว่ายังไงอย่างน้อยก็คงมีรุ่น2มา แต่ดันไม่มีเลย

ทั้งสปีชจบการศึกษาที่ซาเอะบอกว่า ตอนเค้าไปSNHใครๆก็หวังให้เค้าสร้างมันขึ้นมา
แต่พอมาSKEมันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก SKE คือวงที่สมบูรณ์อยู่แล้ววงหนึ่ง เค้าเคารพในข้อนี้
และจะคิดว่าเค้าจะทำเพื่อวงวงนี้ได้ในทางไหนบ้าง

ซึ่งตรงใจเราในฐานะแฟนSKEคนนึงมาก
ว่ากันจริงๆแล้วตัวซาเอะกับชื่อเสียงในฐานะเมมเบอร์ระดับตำนานของAKBจะไม่มีความหมายเลย
ถ้าขณะอยู่ในวงเค้าไม่ได้ทำเพื่อพวกเรา
นี่คงเป็นเคล็ดลับในการชนะใจแฟนSKEของซาเอะ
ไม่มีแฟนSKEคนไหนไม่ชอบคนที่ทุ่มเทเพื่อวงหรอก :)

ทั้งภาพที่ไกชิฮอลล์ถูกย้อมเป็นสีฟ้า-เหลือง (สีประจำตัวของซาเอะในSKE)
และสีส้มในตอนเริ่มคอนเสิร์ท (สีประจำวงSKE)
เราดีใจมากๆที่ทั้งแฟนSKEและแฟนซาเอะก็ช่วยเหลือกันและกันจนเป็นโมเมนท์ปิดท้ายชีวิตไอดอล10ปีของซาเอะที่วิเศษขนาดนี้
หรือแม้แต่ในRH AKBรอบรวม
ที่เพลงที่ได้ที่1คือ Kiseki wa ma ni awanai ของซาเอะ และเพลงที่ได้ที่ 2 คือ Boku wa shitteiru เพลงประกอบสารคดีSKE48

เป็นRHของSKEอย่างแท้จริง ไม่มีใครผิดหวังเลยที่เพลงวงได้ที่2
เรียกได้ว่าตอนซาเอะประกาศจบการศึกษา แฟนSKEถึงกับมีแคมเปญให้ช่วยกันโหวตKisekiด้วย
แบบนี้จะเสียใจได้ยังไง

เพราะเป็น SKE48 มิยาซาวะ ซาเอะ นี่นา

ที่สำคัญยังประกาศคอนเสิร์ทจบการศึกษาของซาเอะในวันนั้นอีกด้วย
ตอนนั้นบรรยากาศในคอมมูนิตี้ญี่ปุ่นชื่นมื่นมาก ทั้งแฟนๆSKEแล้วก็แฟนๆซาเอะออกมาพูดถึงกันและกัน
อย่างที่เราเคยแปลลงเพจไปแล้ว แต่ขอเอามาแปะรวบรวมไว้อีกที

รูปประกอบเป็นรูปตอนเด็กSKEรวมตัวกันส่งวิดีโอสุขสันต์วันเกิดให้ซาเอะ ซาเอะซึ้งจนร้องไห้เลย555
"คนที่ผมอยากส่งความรู้สึกขอบคุณนี้ให้มากที่สุดคือแฟนๆSKE48ทุกคน
ถ้าไม่มีการสนับสนุนของทุกคนก็คงจะไม่ได้ที่1มาแน่ๆ
การที่ซาเอะจังและพวกเราซาเอะโอชิมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะเมมเบอร์และแฟนๆSKE48

ผมขอขอบคุณจากใจครับ #SKE48
" แฟนซาเอะ
 "ตอนที่ประกาศอันดับสามแล้วเหลือแค่เพลงคิเซคิกับโบคุวะชิเตะอิรุ ดีใจสุดๆ ไม่อยากจะเชื่อจนร้องไห้ไม่หยุดเลย SKE48ที่ฉันรู้จักครั้งแรกผ่านทางซาเอะจังน่ะ ฉันรักที่สุดเลย ทั้งเมมเบอร์แล้วก็แฟนๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ" แฟนซาเอะ
 "บนหน้าไทม์ไลน์ของผมมีแต่คนทวีตว่า"ขอบคุณที่มาSKEนะซาเอะซัง" "ดีใจจังที่ซาเอะจังได้จัดคอนจบการศึกษาที่นาโกย่า"เพราะแบบนั้น
ซาเอะจังอย่าพูดว่า"อนุญาตให้ฉันได้จบการศึกษาที่SKEเถอะนะคะ" เลย
ซาเอะจังคือSKEเพราะแบบนั้นการจะจบการศึกษาจากที่นี่มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอดีใจมากเลยที่มาSKE"
แฟนSKE
 "ไม่รูัเหมือนกันว่าทำไม แต่รู้สึกว่าได้เห็นดราม่าของแท้ที่ไม่ได้เห็นมานานแล้วในAKB 。・゜・(ノД`)・゜・。
การที่ คิเซคิได้อันดับ1 ในระยะเวลาโหวตเพียงแค่นั้นหลังจากประกาศจบการศึกษาไม่ใช่แค่พลังของโอตะซา เอะอย่างเดียว แต่มีโหวตจากคุณโอตะจูรินะ คุณโอตะSKEรวมอยู่ด้วย ...ทำให้ในใจเร่าร้อนขึ้นมาเลย ขอบคุณนะ จะซื้อแผ่นแน่ๆ"
แฟนซาเอะ

 "ถึงผมจะไมไ่ด้อยู่ในฐานะที่จะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้ แต่ขอแค่วันนี้เท่านั้นที่ผมจะขอพูดเถอะนะ ว่า "นี่แหละSKE48!" " แฟนซาเอะ

 "ผมรับรู้นะว่าปาฏิหาริย์จะมาถึง"
(ล้อชื่อเพลงBoku wa shiteiru(ผมรับรู้อยู่) กับ kiseki wa mani awanai (ปาฏิหาริย์คงมาไม่ทัน))"
แฟนSKE
เราชอบอันสุดท้ายที่สุด และนี่แหละค่ะที่มาของชื่อเอนทรี่นี้

ในที่สุด ปาฏิหาริย์ก็มาทัน <3 

ขอบคุณซาเอะสำหรับทุกอย่างและช่วงเวลาที่แสนสนุกในวงSKE48 เหมือนอยู่ด้วยกันมาแต่แรกจริงๆ
ดีใจที่ได้เห็นซาเอะจบชีวิตไอดอลอย่างน่าจดจำและสนุกสนานสมกับเจ้าตัวจริงๆ 

ปิดท้ายด้วยข้อความส่วนหนึ่งจากบลอคของซาเอะ

SKEで過ごせた時間はかけがえのない財産です。
48グループで10年過ごした中でも忘れられない2年になりました。
宝物になった時間を、本当にありがとうございました。
ช่วงเวลาที่ฉันใช้ร่วมกับSKEเป็นสิ่งล้ำค่าที่ไม่อาจหาอะไรทดแทนได้
ในเวลาร่วมสิบปีที่ฉันอยู่ใน48กรุ๊ป เป็นสองปีที่ฉันจะไม่มีวันลืม
กับช่วงเวลาที่กลายเป็นสมบัติล้ำค่านี้ ฉันขอบคุณมากจริงๆค่ะ



(Talk) ว่าด้วยการจบการศึกษาของมิยามาเอะ อามิ



มิยามาเอะเป็นเด็กที่มีเรื่องที่คนที่คนทั่วไปไม่รู้อยู่เยอะเหมือนกัน

รวมไปถึงเหตุผลของการตัดสินใจของน้องด้วย
เราเชื่อว่าถ้าคนอ่านแล้วจะเข้าใจได้นะว่าการเลือกทางนี้คือตัวเลือกที่ดีจริงๆ
น้องถึงยิ้มและหัวเราะตลอดเลยตอนพูด
 ไม่ได้พูดคำว่า"จบการศึกษา"ออกมาจริงจังด้วยซ้ำ เหมือนแค่อยากเน้นว่า "ย้ายบริษัทเพื่อทำตามความฝัน" เฉยๆ ยังอยู่ในวงอีกนานแตแค่อยากบอกไว้ล่วงหน้าเรื่องจบการศึกษาเพราะจะได้มีเวลา เตรียมใจกันทั้งเค้าและแฟนๆ

โอตะในเธียเตอร์ถึงกับงง รีแอคชั่นไม่ถูก ไม่รู้จะโหวววว อะไรกันตอนไหน ปกติต้องมีรีแอคชั่น55555 งงอยู่ดราม่าไม่ทัน...
(แต่เมมเบอร์ร้องไห้เละไปแล้ว)

เป็นความใจดีของน้องเหมือนกันที่ไม่อยากให้มันดูเป็นเรื่องเศร้า
ถ้าถามว่าเศร้ามากมั้ย แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ไม่ค่อยดราม่าเท่าไหร่ตอนดูอยู่ (ดูสดอยู่พอดี..)
แต่ถ้าจะบอกว่าไม่เศร้าเลยก็คงโกหก
เราชอบเค้าจากบนเวทีSKEนี่นาแค่คิดว่าจะไม่ได้เห็นบนเวทีนี้อีกก็เสียใจแล้วแต่การสนับสนุนไอดอลคนนึงของเราเราอยากให้เค้ามีความสุข

และการที่ให้กำลังใจและสนับสนุนการตัดสินใจที่คิดอย่างอยากลำบากมาแล้วของเค้าในเวลาแบบนี้คือสิ่งที่จะทำให้โอชิของเรามีความสุขที่สุด
 หน้าที่ของแฟนคลับคือเชื่อมั่นในตัวไอดอลนี่

ส่วนสาเหตุที่เราไม่ดราม่ามาก+ออกแนวดีใจด้วยซ้ำ เพราะเหตุผลต่อไปนี้ค่ะ

1.อาการบาดเจ็บ : อย่างที่รู้กันว่ามิยามาเอะเป็นเด็กที่ดังเพราะเรื่องบนเวที เธียเตอร์ ได้รับเลือกเป็นเซนเตอร์เพราะความโดดเด่นจากบนเธียเตอร์นี่แหละค่ะ แต่ถ้าใครดูทีมSประจำจะเห็นว่าน้องมีซัพพอร์ทหลังหรือผ้าพันอะไรอยู่ที่เอว ตลอด พันจนแทบไม่เห็นเหนือแล้วก็ต้องเปลี่ยนคอสตูมเพราะปิดผ้าพันเอวด้วย
ตอนนั้นทั้งตัวน้องแล้วก็คนอื่นๆคงคิดว่าไม่ซีเรียสอะไรมาก
แต่ช่วงเดือน7ปีที่แล้วปวดจนต้องไปหาหมอ จนรู้ว่าที่ตัวเองเป็นคืออาการ sacroiliac joint disorder เท่าที่ถามๆคนที่เป็นมาคือแค่เดินก็เจ็บแล้ว - -* แต่น้องทนเจ็บเต้นบนเวทีมาตลอดแล้วเอาผ้าพัน...คืออะไรร!?
ช่วงนั้นน้องต้องหยุดขึ้นเวทีไป3-4เดือนเพื่อทำกายภาพบำบัด และอาการนี้ไม่มีทางรักษาหายขาด ต้องผ่าตัด ถ้ายังฝืนอยู่จะเต้นไม่ได้อีก เป็นอาการที่เป็นอุปสรรคกับอาชีพไอดอลแน่ๆ โดยเฉพาะกับเมมเบอร์ที่เด่นเรื่องการแสดงบนเวทีอย่างมิยามาเอะ
ตอนเรารู้คือรู้สึกแย่มาก เพราะมิยามาเอะเป็นเด็กที่ได้ทุกอย่างมาจากความพยายามบนเวที แต่ความพยายามนั้นกลับย้อนมาทำให้เค้าบาดเจ็บเป็นโรคที่รักษาไม่หายนี้
ขนาดกายภาพบำบัดกลับมาขึ้นเวทีได้แล้ว หลังจากนั้นมาไม่กี่เดือนน้องก็อัพบอกเรื่องอาการบาดเจ็บ (อัพเองนะคะ น้องไม่ชอบให้แฟนคลับมาถาม บอกให้เลิกพูดถึงได้แล้ว มันไม่ได้หดหู่ขนาดนั้นหรอกเค้าจะพักแค่แปบเดียวเท่านั้นแหละ...ไม่อยากให้ คนเป็นห่วง55)
ว่าเพิ่งรู้ตัวตอนคนอื่นทักว่าเค้ายืนตรงๆไม่ได้จะเอียงไปข้างซ้ายอยู่ตลอดเวลาเพราะอาการบาดเจ็บ
ก็ยังเจ็บมากอยู่ตลอดเวลาเต้น เวลายืนแต่แค่เห็นรอยยิ้มของแฟนๆความเจ็บปวดแค่นี้มันลืมไปได้อยู่แล้ว
ซึ่งมันจริงนะ เราไม่เคยรู้สึกว่าเค้ามีอาการเจ็บอยู่เลยเวลาอยู่บนเวทีแต่เปล่งประกายและยิ้มแย้มไม่แพ้ใครอยู่ตลอด
มีช่วงนึงที่ไปรักษาที่ต่างประเทศด้วย
เด็กผู้หญิงในครอบครัวดีๆถูกเลี้ยงมาชีวิตดีๆทำไมต้องมาเสี่ยงบาดเจ็บเรื้อรังทั้งชีวิตนานขนาดนี้ ;_: /อีโมแปบ
แค่เรื่องอาการบาดเจ็บเราก็พอรู้สึกได้นะคะ ว่าอายุการเป็นไอดอลของน้องมันอีกไม่นานแน่ๆ และความฝันจริงๆของเค้าก็ไม่ใช่การเป็นไอดอล แต่คือเป็นนักแสดง

2.เอเจนซี่ :
อย่างที่รู้กันว่าน้องไม่ได้"ประกาศจบการศึกษา"แต่"ประกาศย้ายบริษัท" (มิยามาเอะว่าไงก็ว่างั้น...)
ตอนประกาศในสเตจน้องบอกว่า"จะย้ายบริษัทเพื่อทำตามความฝันในการเป็นนักแสดง แต่ในขณะเดียวกันมันคงหมายความว่าต้องจบการศึกษาด้วย แต่ก็ไม่ได้จะจบการศึกษาเร็วๆนี้นะ.."
งงมั้ยคะ
งงแรง....สับสนชีวิตมาก!!5555
แล้วน้องก็มาอัพบลอคอธิบายอีกว่าขอโทษนะที่จะเข้าใจคำพูดเมื่อวานของเค้าผิดไป
แต่มันไม่ใช่ประกาศจบการศึกษา แต่เป็นประกาศย้ายบริษัท
การจบการศึกษาเนี่ย อยากให้พวกเราได้เตรียมใจกันไว้ก่อน
ถ้าจะจบการศึกษาเมื่อไหร่จะบอกอีกทีแน่นอน
ซึ่งจริงๆสำหรับเราก็คือจะจบการศึกษานั่นแหละแต่ยังไม่ได้ประกาศวัน
เท่าที่เห็นแฟนๆคุยกันคือน้องอยากอยู่จนถึงเซตันไซตัวเองปีนี้(เดือน9) แต่ไม่รู้บริษัทจะทำให้ได้รึเปล่า
ส่วนบริษัทที่น้องย้ายไปคือSan Agency เป็นเอเจนซี่ตั้งใหม่ของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างฮิโรชิซัง
ซึ่งฮิโรชิซังมาดูสเตจทีมSในวันที่มิยามาเอะประกาศจบการศึกษาด้วย
และตัวบริษัทเพิ่งก่อตั้งเมื่อฤดูร้อนปีก่อนแล้วก็มาทาบทามมิยามาเอะทันที ที่ตั้งบริษัท ดีลทั้งหมดน่าจะเสร็จก่อนเดือน11ปีก่อน เพราะพวกโปรไฟล์พวกรูปในเว็บบริษัทเขียนไว้ตั้งแต่เดือน11ปีก่อน
ประเด็นคือตัวบริษัทสำหรับเรามองว่าค่อนข้างเห็นความสำคัญของมิยามาเอะมาก ตั้งแต่มาคุยกันตั้งแต่ตั้งบริษัท
และตัวฮิโรชิซังมีโรงเรียนสอนการแสดงมาก่อน
คงคิดจะดันตัวมิยามาเอะให้เป็นทาเลนท์นำคนนึงของบริษัทเพราะในบริษัทยังไม่มีนักแสดงหญิงวัยนี้ที่ค่อนข้างมีกระแสหน่อย
เรียกได้ว่าพอมิยามาเอะประกาศว่าย้ายเข้าบริษัทปุ๊บ บริษัทก็อัพโฆษณาขึ้นเว็บเลยว่าให้มาออดิชั่นกันเถอะ มีโอกาสทำงานร่วมกับมิยามาเอะ อามิ ด้วยนะ () อันนี้เรามองว่าคงอยากได้ไอดอลมีประสบการณ์อย่างมิยามาเอะไปช่วยงานในค่าย ด้วย ค่ายมีแต่เด็กๆ5555 เด็กแบบ เด็กกกกกกกกกกก
และที่สำคัญท่านประธานอุตส่าห์มารับถึงเธียเตอร์ที่นาโกย่านี่...แอบประทับใจ (ฮ่า)
นับเป็นเวลาที่โอเคสำหรับมิยามาเอะด้วยเพราะจบม.ปลายแล้วก็จะย้ายไปโตเกียวเพื่อทำงานกับบริษัทนี้เลย ถ้าไม่มองในแง่ไอดอล
เด็กจบม.6แล้วประธานบริษัทมารอรับเข้าทำงานถึงที่นี่เท่ดีจัง 5555
เพราะสาเหตุนี้เราเลยไม่ค่อยดราม่าและคิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อตัวน้องมากๆค่ะ
ทั้งการได้ไปอยู่บริษัทที่เห็นความสำคัญของเค้าแถมดีลกันไว้นานแล้ว และเจ้าของเป็นนักแสดงมากความสามารถ+มีโรงเรียนสอนการแสดงที่จะช่วยเค้าใน เส้นทางการเป็นนักแสดงแน่ๆ
ไม่ใช่จบการศึกษาไปแล้วลอยๆหาบริษัทใหม่ อันนี้น่าเป็นห่วง..
เรียกได้ว่ามีทางเลือกรอไว้แล้วถึงจบการศึกษาแบบนี้เราดีใจมาก
กอปรกับเรื่องอาการบาดเจ็บที่พูดไว้ข้างต้นอีก
ในฐานะแฟนคลับของน้องคนนึงที่อยากให้น้องมีความสุขเราสนับสนุนการตัดสินใจ ครั้งนี้ และคิดว่ามันเป็นเรื่องน่ายินดีมากกว่าเรื่องเศร้าค่ะ 
(ช่วยอยู่ถึงเซตันไซที...)

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

(แปล) ทาคาฮาชิ มินามิ "องค์หญิงแห่งนาโกย่า มัตสึอิเรนะ ผู้เคยเป็น"โอตะติดบ้าน"สุดแกร่ง!"


(แปล) ทาคาฮาชิ มินามิ ว่าด้วยAKB48ก่อนจบการศึกษา
หมายเลข 41 หัวข้อ
"องค์หญิงแห่งนาโกย่า มัตสึอิเรนะ ผู้เคยเป็น"โอตะติดบ้าน"สุดแกร่ง!"
 
 
 
เรนะทำงานหนักมากอยู่เสมอ แม้ในฐานะเซมบัตสึของAKB48
แต่เมื่อเวลาผ่านไปฉันกลับรู้สึกว่าเธอ..ค่อนข้างเย็นชา
เราจะคุยกันแค่ในบางโอกาสนานๆทีเท่านั้นแต่ก็มีเหตุผลอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมนั้น
เธอเป็นแฟนคลับของวงเรามาตั้งแต่ก่อนเข้าSKE48 วันหนึ่งเธอได้อธิบายให้ฉันฟังว่าทำไมถึงวางตัวออกห่าง

"สำหรับฉันแล้ว ทากามินะซังกับมาเอดะ(อัตสึโกะ)ซัง คือไอดอลที่ฉันเคยเฝ้ามองผ่านโทรทัศน์ เป็นไอดอลที่ฉันเคารพรักและได้มอบความฝันให้ ฉันอยากทำความรู้จัก อยากเป็นเพื่อนด้วยแต่ก็ประหม่าจนทำยังไงก็เข้าหาไม่ได้เลยค่ะ"


ฉันก็ได้เข้าใจนะว่าคงเพราะแบบนั้นแหละ เหมือนว่าเธอพยายามตีตัวออกห่างอย่างจงใจ
ไม่เคยแสดงออกให้ใครเห็นเลยว่าเธอเป็นแฟนคลับ แต่การที่ตัวเธอมีบรรยากาศประหลาดอยู่รอบตัวนี้
ทำให้รู้สึกเข้าถึงได้ยากมากเลยล่ะ

มันคือ "ระยะห่าง"

มัตสึอิ เรนะ นั้นดูราวกับ....หญิงสาวบอบบางคนนั้นที่มักนั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างด้านหลังสุดของห้องเรียน
สายตาจดจ้องตัวหนังสือในขณะที่ผ้าม่านซึ่งถูกลมพัดปัดโดนแขนของเธอเบาๆ
นั่นคือภาพลักษณ์ที่เธอมีต่อเหล่าหนุ่มๆในชั้น

"เธอช่างน่ารักเหลือเกิน....แต่กลับไม่มีเพื่อนเลย"

ทั้งสันโดษและดูเข้าถึงได้ยาก มักจะอยู่คนเดียวเสมอ เพราะร่างกายบอบบางทำให้ต้องหยุดเรียนเป็นประจำ
และหนุ่มๆมักจะถูกดึงดูดโดยผู้หญิงแนวนี้แหละ แต่ในเมื่อปกติไม่มีใครเข้าหาเธอเลยก็ต้องใช้ความกล้าประมาณนึงเลยล่ะถึงจะกล้าเข้าไปหาเธอก่อนได้
แต่จากที่พูดมาทั้งหมดนั้น หญิงสาวผู้เข้าถึงได้ยากแสนยากคนนั้น กลับมาเป็นไอดอล
คุณสามารถไปหาเธอได้ในงานจับมือ คุณได้พูดคุยกับเธอและเธอจะฟังคุณอย่างตั้งอกตั้งใจ
ยิ้มแย้มแสนกว้างและน่ารักอย่างที่สุด

จากทั้งหมดนั่นแล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกคนต้องรู้สึกว่า "ผมจะเป็นคนที่ปกป้องเรนะเอง!!"
เรนะเป็นสาวงามผู้สง่าและสันโดษ เป็นคนซึ่งโดดเด่นกว่าใครในAKB48กรุ๊ป


มีเมมเบอร์หลายคนในวงที่จริงๆแล้วเป็นอดีตแฟนคลับไอดอล ที่โดดเด่นออกมาเลยก็คือซาชิฮาระ ริโนะ
แนวนี้ส่วนมากจะกล้าแสดงออกชัดเจนและได้ไปเข้าร่วมอีเวนท์ไอดอลหลายต่อหลายงานมาในอดีต
แฟนๆแนวนี้จะเรียกกันว่า "โอตะลุยงาน"
(TL note : เราไม่รู้จะแปลไทยว่าอะไร คำญี่ปุ่นคือ 現場ヲタ ค่ะ
เกร็ดเล็กน้อยก็คือคำว่า ヲタ(wota) จะเป็นคำเฉพาะที่ใช้เรียกโอตาคุไอดอล จากที่ปกติใช้คำว่า otaku แต่ถ้าโอตะไอดอลจะเรียกว่า wotaku แทน :) ต่างกันแค่ตอนเขียน ตอนอ่านก็ออกเสียง"โอตะคุ"เหมือนกันค่ะ )

แต่เรนะจะต่างออกไป เธอไม่เคยแสดงออกถึงด้านโอตะของเธอเลย และเคยเป็น "โอตะติดบ้าน" มาก่อน
( 在宅ヲタ )

ฉันว่านั่นแหละที่ทำให้เธอเข้าใจแฟนประเภทนั้นได้เป็นอย่างดี ฉันกล้าพูดเลยว่า
มัตสึอิ เรนะ คือสุดยอด"โอตะติดบ้าน"ของประเทศญี่ปุ่น
สำหรับผู้คนซึ่งแบ่งปันความเร่าร้อนมาจากระยะทางไกลห่าง เรนะคือใครซักคนที่พวกเค้าสามารถ"เชื่อมถึง"ได้
ใครซักคนที่จะเข้าใจพวกเค้า และคือใครคนนั้นที่ทำให้พวกเค้าอยากสนับสนุนเธอด้วยทุกสิ่งที่พวกเค้ามี
และจากที่ฉันเห็น 
นั่นก็เป็นเพราะเรนะภักดีต่อนาโกย่าเสมอไม่เคยเสื่อมคลาย เธอมักเน้นย้ำให้เห็นเสมอว่า

"การเต้นของSKE48คือที่สุดและไม่ใช่แค่เก่งที่สุด ยังงดงามปราณีตอีกด้วย"

มัตสึอิ เรนะ ที่ฉันเอ่ยถึงมาทั้งหมดข้างต้นนั้น ผูกพันแน่นแฟ้นกับนาโกย่าอย่างที่สุด
แม้ในขณะที่เธออยู่กับพวกเราเซมบัตสึAKB48 จิตวิญญาณของเธอยังผูกติดอยู่ที่นาโกย่า
อาจจะไม่ใช่คำพูดที่ดีที่สุดที่จะสื่อออกไปนัก แต่สำหรับฉันคิดว่าเวลาเรนะอยู่กับเซมบัตสึAKB48
นั่นไม่ใช่อะไรที่เป็น100%เต็มที่ของเรนะ
ไม่ใช่ว่าเธอละเลยไม่ตั้งใจทำงานนะ เรนะนั้นมุ่งมั่นและเป็นมืออาชีพอยู่เสมอ
แต่แค่ว่าความสามารถที่แท้จริงของเธอไม่ได้ถูกใช้อย่างเต็มที่

"ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเรนะมีไว้เพื่อ SKE48 เท่านั้น
ไม่มีใครจะพรากความจริงนี้ไปจากองค์หญิงแห่งนาโกย่าได้
องค์หญิงผู้ยืนหยัดสง่างาม มั่นคง ซื่อตรงต่อแฟนๆอยู่เสมอ"


ในฐานะผู้จัดการทั่วไปแล้ว ความจริงข้อนี้เคยทำให้ฉันเจ็บใจอยู่บ้างนะคะ
แต่พอมองย้อนไปแล้ว นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มัตสึอิ เรนะ คือ มัตสึอิ เรนะ อย่างที่เธอเป็น"



ภาพ/คำแปลอังกฤษจาก : sakaeandfrog

blogged by 91

[91][bsummary]

Translation

[Translation][bsummary]

Subtitle

[subtitle][bsummary]

Update

[SKEUpdate][bsummary]