พลุนั้นพวกเราจะเป็นคนจุดเอง
การแสดงอย่างเต็มที่ด้วยผมที่ยาวสลวย
ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็สามารถดึงดูดสายตาได้อย่างอาซาอิ ยูกะ และสุเอะนากะ โอกะ
ในฐานะ
“7D2”
ลูกคนสุดท้องของ SKE48
คู่หูที่เกลียดการยอมแพ้ได้พูดถึงความทะเยอะทะยานอันร้อนแรง เมื่อรุ่น 8 เข้ามา
แน่นอนว่ามันจะต้องร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีกอย่างไม่ต้องสงสัย!
อาซาอิ
ยูกะ x สุเอนากะ
โอกะ
2 คน 21 ตำแหน่ง
- ก่อนอื่นอยากถามถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คนครับ เป็นยังไงครับ?
โอจัง: เพราะเราต้องขึ้นแสดงสเตจใหม่ทีม E (เริ่มวันที่
9 กันยายน 2016) ด้วยกัน ก็เลยได้อยู่ด้วยกันเยอะมากค่ะ
- เคยไปเที่ยวด้วยกันมั้ย?
โอจัง: ถ้าแค่ 2 คน ยังไม่เคยค่ะ
ยูกะตัน: เคยแต่ไปด้วยกันหลายคน
- ที่เชิญทั้ง 2 คนมา เพราะได้ดูไลฟ์ที่มิฮามะเมื่อเดือน 8 ครับ
คุณสองคนเป็นเซนเตอร์คู่ในการแสดงของเคงคิวเซย์เพลง Hanabi wa Owaranai
เป็นการแสดงที่น่าสนใจมาก
ทั้งคู่: ขอบคุณมากค่ะ!
- นอกจากนั้น ในคอนเสิร์ตจบการศึกษาของชิบาตะ อายะซัง (ที่ Zepp
Nagoya) ก็โดดเด่นมาก ในสเตจวันแรกของทีม E ก็เป็นเคงคิวเซย์แค่
2 คนที่ได้ขึ้นแสดง เพราะงั้นเลยคิดว่าจะต้องคุยด้วยให้ได้น่ะครับ
ทั้งคู่: ขอบคุณค่ะ
- มีโอกาสได้ออกมายืนแถวหน้ามากขึ้นแล้ว เริ่มรู้สึกบ้างมั้ยครับ?
ยูกะตัน: นั่นสินะคะ เราสองคนต่างก็เคยยืนข้างหลังสุดมาแล้ว
โอจัง: น่าจะประมาณปีก่อน
ยูกะตัน: ตอนแสดงเพลง Mae no Meri ในสเตจ
เราสองคนก็ยืนอยู่หลังสุดของริมทั้งสองฝั่ง
โอจัง: อยู่ตรงริมสุดของแถวสุดท้าย ตอนที่รู้ตำแหน่งของตัวเองรู้สึกเจ็บใจมากเลยค่ะ
ยูกะตัน: เจ็บใจมากจริงๆ แต่ตอนนี้ฉันได้ยืนเซนเตอร์เพลง Gonna
Jump ในสเตจเคงคิวเซย์ ส่วนโอจังก็ยืนเซนเตอร์ใน Kin no ai, Gin no
ai
- ใน 1 ปีที่ผ่านมานี้ พยายามทำอะไรบ้าง?
โอจัง: เพราะอยากขึ้นแสดงในสเตจเลยพยายามค่ะ สมัยก่อนฉันน่ะ
สมมติว่าจะส่งเคงคิวเซย์ไปงาน 4 คน ฉันจะไม่ได้ไปแน่นอน คงเพราะยังแสดงได้ไม่ดีพอ เพราะอยากจะทำงานพวกนั้นเลยยิ่งต้องพยายามมากขึ้น
- ซ้อมอย่างเอาเป็นเอาตายเลย?
โอจัง: ใช่ค่ะ!
- ซ้อมในห้องซ้อมเหรอครับ?
โอจัง: ใช่ค่ะ ก่อนอื่นก็จำท่าเต้นมาจากบ้าน แล้วก็มาซ้อมกับเพลงในห้องซ้อม
จากนั้นก็เริ่มเต้น ตรงไหนที่ยังไม่ดีก็จะซ้อมอีก...ประมาณนี้ค่ะ
- รุ่น 7 คงไม่ได้มารวมตัวกันซ้อมสินะครับ?
โอจัง: ซ้อมแยกกันค่ะ
ยูกะตัน: เราไม่มีโอกาสที่จะรวมตัวกันค่ะ เลยต้องซ้อมแยกกัน
- นั่นสินะ แต่ละคนก็ต้องแยกกันขึ้นสเตจ คงจะรวมตัวกันก็ยาก
นี่จำได้กี่สเตจกันครับ?
ยูกะตัน: ฉันได้ 7 สเตจค่ะ!
โอจัง: ฉันได้ 6 ค่ะ!
ยูกะตัน: ฉันน่ะได้ 9 ตำแหน่งใน 7 สเตจ
โอจัง: ในเสตจ Party ฉันจำได้ 4 ตำแหน่งล่ะ...
ยูกะตัน: เก่งจัง!
โอจัง: KII 3 ตำแหน่ง, S 2 ตำแหน่ง, E 2 ตำแหน่ง สเตจใหม่ทีม E 1 ตำแหน่ง ก็เท่ากับ....12
ตำแหน่ง!
- จำได้เยอะขนาดนั้นเลย! นี่เรียนรู้ด้วยตัวเองหมดเลยรึเปล่าครับ?
โอจัง: แรกๆก็เรียนรู้ด้วยตัวเองค่ะ
ยูกะตัน: พวกเราได้อันเดอร์ครั้งแรกช้ามากค่ะ
โอจัง: เพิ่งได้เริ่มเมื่อเดือน 1 ปีนี้ (2016) เอง
ยูกะตัน: ของฉันเริ่มเดือน 12 ปีที่แล้ว (2015) ตอนนั้นรุ่น 7
แทบจะได้อันเดอร์กันไปหมดแล้ว รู้สึกว่า “แย่แล้ว” จริงๆค่ะ
โอจัง: กังวลมากเลยล่ะ
ยูกะตัน: ก็เลยเริ่มพยายามซ้อมให้มาก...
- ปรับตัวเหรอครับ?
ทั้งคู่: ค่ะ!
- ฮ่าๆๆๆ คงเคยคิดว่า “ต้องปรับตัวให้ได้ สู้ตาย!” สินะ
ทั้งคู่: คิดค่ะ!
โอจัง: พอไปบอกผู้จัดการว่า “ตำแหน่งนั้นกับตำแหน่งนี้ฉันจำได้แล้วนะคะ!” ก็จะได้รับการทดสอบ
ยูกะตัน: สอบไม่ผ่านก็มีเหมือนกันนะคะ ตอนทดสอบรุ่น 7 ที่จะขึ้นสเตจ Seifuku
no me ครั้งแรก ฉันตกล่ะ!
โอจัง: ฉันน่ะขนาดทดสอบรอบสองแล้วก็ยังตกค่ะ
ยูกะตัน: นั่นน่ะ ร้องไห้หนักมากเลย แต่ว่าพอตอนหลังซ้อมจนจำได้แล้ว
ก็ผ่านการทดสอบ ในที่สุดก็ได้ยืนในจุดที่เคยสอบตก รู้สึกแบบทำสำเร็จแล้ว!
- รุ่น 7 เดบิวต์ครั้งแรกในไลฟ์งานจับมือเปิดตัวเพลง Coquettish
Juutai chuu (ที่ Pacifico Yokohama) เมื่อวันที่ 31 มีนาคมปีที่แล้ว (2015)
ยังจำความรู้สึกวันนั้นได้มั้ยครับ?
ทั้งคู่: จำได้ค่ะ!
โอจัง: ตื่นเต้นมากค่ะ ตำแหน่งในตอนนั้นดีมากๆเลย อยู่ตำแหน่ง 3 กับ 4 ค่ะ!
ยูกะตัน: ฉันอยู่ตำแหน่ง 2 ค่ะ! เซนเตอร์คือคาโน่จัง
คาโน่จังน่ะป็อปมากตั้งแต่เริ่มออดิทชั่น ได้ที่ 1 น่ะค่ะ
- ตอนออดิทชั่นรุ่น 7 มีป็อปปูล่าร์โหวตสินะ งั้นสเตจ Party วันแรกเมื่อวันที่
6 กรกฎาคมล่ะครับ?
ยูกะตัน: ฉันชนะยูนานะ (โอบาตะ ยูนะ) ด้วยค่ะ!
โอจัง: ฉันได้อยู่หน้ากว่าราระ (โกโต้ ราระ) อีกค่ะ!
- พูดอีกอย่างคือ ตั้งแต่นั้นก็ตกลงไปเรื่อยๆ
ทั้งสองคนก็เป็นพวกไม่ชอบความพ่ายแพ้ แล้วที่โรงเรียนมีเรื่องที่ไม่ยอมแพ้มั้ยครับ?
โอจัง: ตอนที่แข่งกับเพื่อนๆเรื่องการสอบ ฉันแพ้ค่ะ ตอนที่เพื่อนมาอวดว่าได้คะแนนเยอะกว่าฉันน่ะ
มันเจ็บใจชะมัด!
ยูกะตัน: ตอนฉันอยู่ประถมฉันเป็นกรรมการนักเรียนค่ะ ฉันถนัดสรุปเรื่องต่างๆ
แต่ตอนนี้ได้ทำกิจกรรมของ SKE48 ตามที่ฝัน เลยแทบไม่ได้คุยกับเพื่อนๆในห้องเลยค่ะ
- อ๊ะ? เป็นงั้นเหรอ?
ยูกะตัน: เพราะงั้น หลังจากนี้จะพยายามมีเพื่อนให้มากขึ้น!
- นี่เราคุยอะไรกันอยู่เนี่ย (หัวเราะ)
ที่อยากทราบคือเรื่องที่ไม่ยอมแพ้ต่างหากครับ
ยูกะตัน: ดันพูดไปคนละเรื่องเลย (หัวเราะ)
แรงผลักดันของทั้งสองคน
- สำหรับการดิ้นรนต่อสู้ของทั้งสองคน ถ้าถูกชมเรื่องไหนจะดีใจที่สุดครับ?
โอจัง: เรื่องไหนก็ดีใจค่ะ แต่ถ้ามีคนบอกว่า “แสดงได้ดีมากเลย” จะดีใจมากค่ะ!
ยูกะตัน: “ตรงนี้ของเพลงนั้นน่ะ ทำได้ดีมากเลย” ถ้าชมแบบนี้จะดีใจมากค่ะ
ฉันน่ะชอบสุดะ อาคาริซังมาก ตอนที่ได้ดู “Koisuru Fortune Cookie” ในทีวี พอเห็นสุดะซังโพสท่าทำมือเป็นรูปหัวใจก็ชอบเลยค่ะ
เป็นเพราะโมเม้นท์นั้นเลย! ดังนั้นถ้าฉันทำให้คนชอบแบบนั้นได้บ้าง
ก็จะดีใจมาก
- ก่อนหน้านี้ชอบ 48group มาก่อนรึเปล่า?
ยูกะตัน: ฉันได้ไปดูคอนเสิร์ต SKE48 ที่นาโกย่าโดมค่ะ (เมื่อเดือน 2 ปี 2014)
- เกี่ยวกับที่มีลูกพี่ลูกน้องเป็นคิซากิ ยูริอะรึเปล่า?
ยูกะตัน: ใช่ค่ะ
- สุเอนากะซังเป็นแฟน 48group รึเปล่าครับ?
โอจัง: ฉันชอบ SKE48 มานานแล้วค่ะ ยังได้ไปตามรอยสถานที่สำคัญด้วย
- เห็นในบล็อกแล้วล่ะครับ (หัวเราะ) ทั้งสองคนมีกิจกรรมที่น่าสนใจมาก
แล้วอะไรที่เป็นแรงผลักดันครับ?
ยูกะตัน: การได้พบปะกับแฟนๆค่ะ งานจับมือน่ะสนุกมาก
อยากให้แฟนๆมาเพิ่มขึ้นแม้คนนึงก็ยังดี ถ้าคุยเหมือนๆกันหมดก็คงน่าเบื่อ
เพราะงั้นจะพยายามคุยเรื่องที่ไม่ซ้ำกันค่ะ
- ถึงจะเพิ่งอยู่ม.1 แต่สุดยอดเลยนะครับ!
ยูกะตัน: ช่วงนี้ก็มีแฟนๆของสุดะ อาคาริซังมาด้วยค่ะ! คุยเรื่องสุดะซังกัน
สนุกจริงๆค่ะ!
- ตอบด้วยใบหน้าที่ดูมีความสุขจากใจเลยนะ (หัวเราะ) ความสามารถในการสื่อสารของทั้งสองคนนั้นดีมากเลยนะครับ
คุยกับผู้ใหญ่ไม่กลัวเหรอครับ?
ยูกะตัน: ก่อนฉันเข้ามา SKE48 ก็เคยสัมภาษณ์ในรายการทีวีค่ะ
ตอนที่ถามว่าอาหารเป็นไงมั่ง ฉันได้แต่พูดว่า “อร่อยค่ะ” แต่ว่าตั้งแต่เข้า SKE48
มาก็ค่อยๆพูดเก่งขึ้นแล้ว
- ยินดีด้วย (หัวเราะ) แล้วแรงผลักดันของสุเอะนากะซังล่ะครับ?
โอจัง: แรงผลักดันคือการได้เข้ามาอยู่ SKE48 ค่ะ
ฉันอยากเข้า SKE48 อยากเต้นแบบ SKE48 มีแฟนๆมาดู มีรุ่นพี่ มีรุ่นเดียวกัน พวกนี้เป็นแรงผลักดันหมดเลย
- ทำไมถึงชอบ SKE48 ขนาดนี้ล่ะ?
โอจัง: เพราะการเต้นที่เท่มาก ได้ดูพวกเขาเปล่งประกายในทีวีก็ชื่นชมมากๆค่ะ
ตั้งแต่ “Tsuyoki mono yo” ก็เริ่มชอบแล้ว
- ที่แท้ก็คนเก่าแก่ (หัวเราะ)
โอจัง: ตอนนั้นอายุประมาณ 7 ขวบค่ะ ตอนป.4 ก็อยากเป็นไอดอล แม้ตอนนั้นจะทำงานนางแบบอยู่แต่ก็อยากลองเป็นไอดอล
อีกอย่างมีรุ่นพี่นางแบบที่ได้เข้า AKB48 ด้วย รู้สึกว่าสุดยอดมาก
ฉันก็เลยอยากเข้าบ้างน่ะค่ะ
- รุ่นพี่คนนั้นคือ?
โอจัง: โยโกชิม่า อาเอริจังค่ะ
- ดราฟต์รุ่น 1 ที่มาจากไอจินั่นเอง
โอจัง: แต่ว่า ที่รู้สึกประทับจากที่ดูทางทีวีก็สำคัญค่ะ
อยากจะเป็นคนที่สร้างตวามประทับใจแบบนั้นได้บ้าง
- แค่ป.4ก็มีความคิดลึกซึ้งขนาดนี้แล้ว!
อาซาอิซังเริ่มรู้จัก SKE48 จากลูกพี่ลูกน้องยูริอะหรือเปล่าครับ?
ยูกะตัน: จริงๆฉันเป็นพวกขี้อายค่ะ เพราะงั้นเลยไม่ค่อยได้คุยกับยูริอะซังเท่าไหร่
แต่ว่าตอนนาโกย่าโดม ได้เห็นยูริอะซังโซโล่เพลง Sore demo suki dayo
ก็เลยเริ่มคิดว่า ฉันก็อยากเข้า SKE48 เหมือนกัน!
จะแพ้รุ่น 8 ไม่ได้
- อยากทราบความคิดของทั้งสองคนครับว่ามีความประทับใจเกี่ยวกับอีกฝ่ายยังไง?
โอจัง: ยูกะตันน่ะแสดงสีหน้าอารมณ์ออกมาเก่งมากค่ะ ในสเตจก็ยิ้มได้สุดยอดมาก
รู้สึกว่าเท่ชะมัด เปลี่ยนสีหน้าได้เก่งมากเลย
ยูกะตัน: โอจังน่ะหน้าตาดีมาก สวยมากเลยค่ะ!
ไม่ว่าส่วนไหนก็สวย
โอจัง: ชมกันเว่อร์ไปแล้ว (หัวเราะ)
ยูกะตัน: อีกอย่างหุ่นก็เพรียวบาง มีสไตล์มากๆ คาแรคเตอร์ก็สุดยอด แต่คาแรคเตอร์หลังเวทีกับบนเวทีน่ะไม่เหมือนกันนะคะ
ชุดซ้อมน่ะเป็นลายเสือดาว!
- ม.3 ก็ใส่ลายเสือดาวแล้ว!
โอจัง: ค่ะ!
ยูกะตัน: ฉันคงใส่ไม่ได้อ่ะ!
- อย่าใส่นะครับ (หัวเราะ) แล้วความประทับใจบนเวทีล่ะ?
โอจัง: การเต้นของยูกะตันกางออกไปกว้างมาก เพราะงั้นฉันเองก็จะยอมแพ้ไม่ได้
รู้ตัวว่าต้องตามให้ทันค่ะ ถ้ายูกะตันอยู่ข้างๆจะรู้สึกว่าต้องพยายามค่ะ
ยูกะตัน: (พูดเสริมขึ้นมา) ฉันก็เหมือนกัน เหมือนกันมากเลย!
ไม่อยากยอมแพ้จริงๆ รู้จัก Skirt Hirari มั้ยคะ?
- ก็รู้จักอยู่ครับ (หัวเราะ)
ยูกะตัน: โอจังตอนนั้นน่ะแสดงสีหน้าได้ดีมาก แม้จะเต้นอยู่ข้างหน้าฉัน
แต่ขนาดอยู่ข้างหลังก็ยังรู้สึกได้ถึงออร่าเลย
- ตอนสัมภาษณ์สุเอนากะซังเมื่อปีที่แล้ว จำได้ว่าบอกว่า
“ถึงฉันจะไม่ได้น่ารักอะไร แต่ก็อยากให้คนเห็นว่าใน SKE48 มีเด็กแบบนี้กำลังพยายามอยู่น่ะค่ะ”
ตอนนี้ก็ยังไม่มั่นใจในตัวเองเหรอครับ?
โอจัง: ใช่ค่ะ มีทั้งเมมเบอร์ที่น่ารักๆ ทั้งเมมเบอร์ที่เป็นตัวของตัวเองอยู่มากมาย
ฉันก็อยากเรียนรู้จากพวกเธอค่ะ
- ทั้งๆที่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน
ตอนนี้ก็ได้ยืนในตำแหน่งที่ดีแล้วนะครับ?
โอจัง: นั่นสินะคะ
ยูกะตัน: แต่ก็จะเอ้อระเหยไม่ได้! เพราะจะร่วงลงไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แม้จะเคยเต้น Coquettish
Juutai chuu อยู่หน้าสุด แต่ตั้งแต่ครั้งนั้นก็ถอนร่นลงมา เพราะเป็นแบบนี้
เลยคิดว่าจะมัวเอ้อระเหยไม่ได้ค่ะ อีกไม่นานรุ่น 8 ก็จะเข้ามาแล้ว จะแพ้ไม่ได้ค่ะ
- แน่นอนว่าเริ่มจับตามองรุ่น 8 แล้วสินะ?
โอจัง: ใข่ค่ะ!
ยูกะตัน: มากเลยค่ะ! จะต้องเด็กแบบราระเข้ามาแน่!
- สุเอนากะซัง ทุกครั้งที่เขียนบล็อกก็เขียนว่า “อยากจะทุ่มเทเพื่อ SKE48”
ตรงนี้มันมีความหมายอะไรมั้ยครับ?
โอจัง: ตั้งแต่เริ่มออดิทชั่นก็พูดแบบนี้แหละค่ะ นั่นเป็นเพราะว่าอยากทำเพื่อ
SKE48 ค่ะ! ที่โรงเรียนฉันน่ะ มีคนสนใจ SKE48 มากขึ้นเพราะฉันได้เข้าวงมาค่ะ
เพราะงั้นอยากให้คนรู้จักมากๆขึ้นไปอีก
เพื่อโซโล่ที่นาโกย่าโดม
- ช่วยบอกเป้าหมายต่อจากนี้หน่อยครับ
ยูกะตัน: เลื่อนขึ้นทีมค่ะ! เราสองคนได้ขึ้นสเตจวันแรกของทีม E
ทั้งรุ่นพี่และอีกหลายเรื่องเป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัส แต่ก็รู้สึกว่าทีมนี่สุดยอดไปเลย
เลื่อนขึ้นทีมแล้วก็มุ่งหน้าต่อไป
โอจัง: ทั้งเลื่อนขึ้นทีมแล้วก็เซมบัตสึเป็นเป้าหมายค่ะ แต่ว่าฉันน่ะอยากจะเป็นคนที่
SKE48 ขาดไม่ได้ ถึงจะยังไม่รู้ชัดเจนว่าต้องทำยังไง
แต่อย่างจูรินะซังก็เป็นคนที่ขาดไม่ได้ใช่มั้ยล่ะคะ ก็อยากจะเป็นแบบนั้นค่ะ
- รุ่น 7 น่ะ หลังจากมีสเตจเคงคิวเซย์ไม่กี่เดือนก็มีคนได้ขึ้นทีมแล้ว
โมเม้นต์ที่ประกาศ (เลื่อนขึ้นทีม) คิดอะไรอยู่ครับ?
ยูกะตัน: ช่วงนั้นยังไม่ได้อันเดอร์เลยด้วยซ้ำ....
โอจัง: ฉันรู้ตัวดีค่ะว่ายังไงก็ยังไม่ได้ขึ้นทีม ช่วงนั้นมีแค่สเตจเคงคิวเซย์กับงานจับมือ
รู้สึกว่าตัวเองในตอนนั้นยังไงก็ขึ้นทีมไม่ได้ แน่นอนว่าเจ็บใจมากที่ถูกแซงไป
แต่ตอนนั้นมีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะแยะเลยค่ะ
- สุดท้ายอยากทราบว่า สำหรับตัวเองแล้วคู่แข่งคือใครครับ?
โอจัง: สำหรับฉันคือเมมเบอร์ทุกคนค่ะ
แม้ว่าทั้งรุ่นเดียวกันทั้งรุ่นพี่จะเป็นพวกพ้อง แต่ว่าอยากจะก้าวข้ามรุ่นพี่ค่ะ ส่วนรุ่นเดียวกันถ้ายืนอยู่ข้างหน้า
ฉันก็จับตามองค่ะ
ยูกะตัน: ส่วนฉันคือโอจังค่ะ!
โอจัง: (หันมองยูกะตัน)
ยูกะตัน: ในเพลง Hanabi wa owaranai (ที่มิฮามะ) ถึงจะได้ยืนข้างๆโอจัง แต่ตรงท่อนที่
2 โอจังก็อยู่ตำแหน่ง 0 ส่วนฉันอยู่ตำแหน่ง 2 แน่นอนว่าตำแหน่ง 0 กับ 2
มันไม่เหมือนกัน ตอนนั้นรู้สึกแพ้ค่ะ เจ็บใจมากด้วย
- แต่ดูแล้วก็เป็น W center นี่หน่า
ยูกะตัน: ถึงจะดูเป็นอย่างนั้น แต่มันก็ไม่ใช่ค่ะ
- นั่นแหละครับ คำตอบแบบนี้แหละที่อยากได้ยิน เพราะงั้นเลยถามไป
ยูกะตัน: อย่างนี้เองสินะคะ (หัวเราะ)
- คิดว่าคำตอบที่ตอบมานี้ต้องใช้ความกล้าน่ะครับ จนถึงตอนนี้
มีเรื่องที่เสียดายเพราะ “ตอนนั้น ถ้ามีความกล้าล่ะก็...” บ้างมั้ยครับ?
ยูกะตัน: คำตอบนี้อาจจะไม่ตรงคำถามเท่าไหร่นะคะ เมื่อก่อนเคยมีตอนที่ฉันกับโอจังจะต้องขึ้นสเตจทีม
E แล้วจู่ๆโอจังคอเคล็ดเลยขึ้นสเตจไม่ได้ ตอนนั้นก็ไปถามเคงคิวเซย์ว่า
“มีใครมาแทนได้มั้ย?” แต่ก็ไม่มีใครยกมือ ถ้าฉันไม่ได้ต้องขึ้นอยู่แล้วล่ะก็
ฉันจะยกมือค่ะ
โอจัง: เข้าใจเลย!
ยูกะตัน: สุดท้ายเป็นไอคาว่า โฮโนกะจังขึ้นแสดง
โฮโนโนะก็ได้รับคำชมนะแต่รู้สึกเสียดายยังไงไม่รู้ (ที่ไม่ยอมยกมือ)
โอจัง: ใช่แล้วล่ะ! แต่ว่านะถึงจะต้องใช้เวลารักษาอาทิตย์นึง
แต่แค่สองวันก็หายเคล็ดแล้ว แล้วฉันก็ขึ้นแสดงเลย ถูกเรียกว่า “พลังรักษาปีศาจ” ค่ะ
- งั้นไม่ทราบว่าปีศาจสุเอะนากะซังเคยมีเรื่องที่ “แค่กล้าก็พอแล้ว”
บ้างมั้ยครับ?
โอจัง: จริงๆก็อยากจะพูดเรื่องเสน่ห์ของ SKE48
ออกไปให้มากขึ้นค่ะ แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองสื่อสารออกไปดีแล้วรึยัง ก็เลยยังไม่ค่อยกล้าพูดออกมา
- ถ้างั้น ก็ลองสื่อสารออกมาตอนนี้เลยสิครับ
โอจัง: SKE48 เป็นวงที่ร้อนแรงจริงๆ รุ่นพี่ทุกคนก็พยายามกันเต็มที่
เพื่อนรุ่นเดียวกันก็มีข้อดีนับไม่ถ้วน ส่วนความรู้สึกมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมแพ้ให้วงอื่นนี่เป็นข้อดีของฉันค่ะ
ความรู้สึกว่าเป็นคู่แข่งของแต่ละทีมก็รุนแรงมากด้วย
- ทั้งสองคนต่างก็เกลียดความพ่ายแพ้ ต่อสู้เพื่อ SKE48 ถ้ามีความร้อนแรงแบบนี้ล่ะก็ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นครับ!
ทั้งคู่: (แทรกขึ้นมา) นาโกย่าโดม!
โอจัง: เพราะเป็นวงของนาโกย่านี่เนอะ อยากจะเริ่มจากบ้านเกิดค่ะ
ยูกะตัน: คราวนี้จะไม่ใช่ที่นั่งคนดูค่ะ แต่อยากจะเห็นวิวจากบนเวที!
- ถ้างั้น ถ้าได้ขึ้นไปแสดง Sore demo suki dayo คงจะสุดยอดมากเลยครับ!
ยูกะตัน: ฉันก็อยากร้องโซโล่ค่ะ!
โอจัง: งั้น ฉันก็จะโซโล่เพลง Tsuyoki mono yo ค่ะ!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น